Wednesday, October 24, 2007

สุดยอดความมหัศจรรย์ของ "คอมพิวเตอร์โหร" ของท่านอาจารย์ ประยูร พลอารีย์

เมื่อวาน (วันที่ 23 ตุลาคม 2550) ได้เอกสารสำเนาเรื่อง คอมพิวเตอร์โหร ของท่าน อ.ประยูร จากพี่ตู่ (อ.กามล) ก็รู้สึกตื่นเต้นมากเพราะเป็นเอกสารที่ผมยังไม่เคยมี แต่ทราบว่ามีหนังสือของอ.ประยูร เล่มนี้อยู่จากคนอื่นๆ มานานมากแล้ว

หนังสือเล่มนี้ ชื่อว่า คอมพิวเตอร์โหร ประจำปี 2521 (โหทั้ง 30 ปีที่แล้ว) ซึ่งในหนังสือแจ้งไว้ว่า อ.ประยูร พลอารีย์ เป็นผู้ออกแบบคำพยากรณ์ ส่วนเทคนิคการพยากรณ์ เป็นงานของคุณ ดวง บงกชเกตุสกุล และมีปฏิทินอาทิตย์ของคุณ ดิลก วุฒิพาณิชย์

ในการพยากรณ์นั้นไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือ โปรแกรม หรือคอมพิวเตอร์อะไรเลย เพียงแค่รู้วันเดือนปีเกิด ก็สามารถดูดวงชะตาภายในปี 2521 ได้ทั้งเป็นรายปี รายเดือน หรือแม้กระทั่งรายวัน ก็ยังได้ เพียงแค่เปิดตารางปฏิทินที่ให้มาเท่านั้นเอง คลายเป็นดังคัมภีร์ยอดมนุษย์ ที่เปลี่ยนคนธรรมดาให้กลายเป็นสุดยอดโหราจารย์ชื่อดังได้ทันที ไม่ต้องไปหาธงที่ไหน ไม่ต้องบอกว่าเรียนนานแค่ไหน หรือว่าเรียนมาจากใคร เพียงมีตำราเล่มนี้เท่านั้น สุดยอด!

ข้อสังเกตุที่ได้จาก คอมพิวเตอร์โหร คือ

  1. ใช้อาทิตย์เจ้าชะตาเป็นหลักในการพยากรณ์ ซึ่งก็ควรจะเป็นเช่นนั้น เพราะใช้ข้อมูลน้อย และคำนวนง่ายที่สุดแล้ว ให้ค่าผิดพลาดในเชิงองศาต่ำมาก ดังนั้นตำแหน่งของอาทิตย์ที่คำนวนได้ จึงมีความน่าเชื่อถือสูง แล้วค่อยไปหาตำแหน่งที่ทำมุมสัมพันธ์ ตามจำนวนเท่าของ 45 องศา
  2. เหตุการณ์ที่ในรายปี จะเป็นตัวกำหนดกรอบของ รายเดือน และรายวันต่อไป เป็นกฏเกณฑ์ที่ต้องจำให้ขึ้นใจเลยว่า กรอบใหญ่ต้องบอกเสียก่อน กรอบเล็กจึงจะมีความหมายตามขึ้นมาได้ ไม่อย่างนั้นก็จะแสดงผลในทำนองปรัชญาเดียวกันกับคำทำนายรายเดือนนั้น แต่ไม่อาจเกินไปกว่ากรอบใหญ่ได้
  3. คำพยากรณ์มี 360 ข้อ นั้นคือ ทุกองศา จากอ.ประยูร พลอารีย์ อันนี้สิ เขียนได้ไง สุดยอดจริงๆ แล้วใช้ได้ภายในปี 2521 เท่านั้น แล้วไม่ได้เขียนแบบธรรมดานะครับ ขอโทษนะครับ ท่านใช้คำพยากรณ์ที่อ่านแล้วสสวย เนียน สอดคล้อง ไพเราะ แค่เราจำคำทำนายไปพูดในโอกาศทั่วไปก็เท่ห์แล้ว
  4. วิธีการพยากรณ์ ไม่ได้แจ้งว่าใช้วิธีอะไร แต่เป็นยูเรเนียนแน่นอน เพราะกล่าวถึงการพัฒนาร่วมกันระหว่าง โรงเรียนโหราศาสตร์กรุงเทพ และ โรงเรียนโหราศาสตร์ฮัมบูร์ก (Hamburger Schule) แต่ถ้าเป็นการใช้ระดับองศาของอาทิตย์มาพยากรณ์ ผมว่าน่าจะใช้พระเคราะห์สนธิ เป็นหลักมากกว่าวิธีการอื่น
  5. ดวงที่ใช้ในการเขียนคำพยากรณ์เชื่อว่าเป็นดวงสงกรานต์ประจำปี เพราะว่ามีการแจ้งว่าสามารถใช้พยากรณ์รายวันได้ตั้งแต่ 22 ธันวาคม 2520 เป็นต้นไป และลองตรวจสอบดูแล้ว คำพยากรณ์แต่ละองศานั้นก็ดูจะคล้ายกับ midpoint ในองศานั้น แต่ผมยังไม่มั่นใจ คงต้องพยายามแกะรอยกันต่อไปว่า ท่านอ.ประยูรใช้วิธีการอะไร หรือมีเทคนิคอะไรในการพยากรณ์ งานยากส์อีกแล้ว
  6. ในคำพยากรณ์แบบตลอดชีวิต นี้สิ งงของจริง ไม่รู้ว่าใช้วิธีการ หรือข้อมูลจากที่ไหน รู้แต่ว่าใช้ลักษณะจาน 90 แต่ไม่มีทีมาที่ไปให้เลย และเมื่อเอามาทดลองพยากรณ์ ก็แม่นยำอย่างเหลือเชื่อ

Sunday, August 12, 2007

ทำไมหุ้นจึงตกในเดือนสิงหาคม - กันยายน 2550

จากครั้งก่อนที่เกริ่นเรื่องคำทำนายเรื่องตลาดหุ้นว่าจะตกในเดือนสิงหาคม และกันยายน คราวนี้จึงมาเริ่มสาธยายให้ฟังเพิ่ม

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า วิธีการที่ใช้พิจารณา หลักๆก็นำมาจากบทความของฝรั่งที่ใช้ในการพยากรณ์หุ้น รวมถึงวิธีการจัดพอร์ตกองทุนโดยใช้การพยากรณ์ทางโหราศาสตร์ ที่ขึ้นชื่อ และจำได้แม่น คือ Bill Meridian

หลักการง่ายๆ คือ คำนวนดวงชะตาหุ้นนั้น ด้วยวันเวลาที่มีการซื้อขายในตลาดครั้งแรก (First Day Trade) จากนั้นก็พิจารณาคล้ายคลึงกับดวงชะตาของบุคคล

ผมก็นำวันเวลาที่ตลาดเปิดครั้งแรกอย่างเป็นทางการคือ วันที่ 30 เมษายน 2518 เวลาเปิดทำการคือ 10:30 น. มาเป็นพื้นดวง (ผมลองเทียบกับเหตุการณ์สำคัญหลายอย่างของตลาดหลักทรัพย์ ยังพบว่าเวลาที่ใช้น่าจะมีการคลาดเคลื่อนอยู่เล็กน้อย แต่ผมยังไม่ค่อยจะมั่นใจนัก คงต้องเก็บข้อมูลไปอีกสักระยะหนึ่ง

โดยหลักการพยากรณ์ดวงชะตานั้นมีหลายวิธี แต่วิธีที่ใช้กันทั่วไป และให้ผลน่าประทับใจ คือ การพิจารณาปัจจัยจร

จากปฏิทินราฟาเอล ในช่วงต้นสิงหา จะพบว่ามีเหตุการณ์ดาวอังคาร (Mar) ทำมุม 90 องศากับ ดาวเสาร์ (Saturn)

จากคัมภีร์พระเคราะห์สนธิ => อังคาร+เสาร์ = "งานที่ทำเป็นระยะ ๆ (หยุดบ้างทำบ้าง) การหยุดชะงักการงาน ความเจ็บป่วย การป่วยหนัก หรือเรื่องร้ายแรง การหยุดชะงัก การพลัดพรากโดยถูกบังคับ การกระทำที่ก่อให้เกิดการพลัดพราก การถึงแก่กรรม" หรือแปลง่ายๆว่า ยุติกิจกรรม หรือ ยุติบทบาท

ปรากฏการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่ส่งผลในวงกว้าง ที่ใดก็ได้ และมันจะไม่มีผลอะไรเลยถ้าไม่มาทำมุมกับ จุดเจ้าชะตาเมอริเดียน (Meridian) ของ SET index นั้นหมายความว่า ตลาดหลักทรัพย์บ้านเรา ได้รับผลกระทบบางอย่างที่ทำให้เกิดการหยุดชะงัก




เท่าที่ผมเก็บข้อมูลมาจะพบว่าถ้าหากกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น หุ้นก็จะตกลงมา แต่ถ้าหากหุ้นเป็นช่วงขาลง ก็จะเป็นเปลี่ยนเป็นขาขึ้นแทน (ยุติการลง) ประกอบกับดวงชะตาของหุ้นๆต่างที่ผมสนใจให้ผลไปในทิศทางเดียวกัน คือ ราคามีแนวโน้มลดลง ผมจึงกล้าที่จะประกาศต่อเพื่อนๆว่า ตลาดหุ้นจะเริ่มตกต่ำในช่วงเดือนสิงหาคม และจะต่อเนื่องไปอีก 1 เดือนเพราะว่า เสาร์ (Saturn) ยังคงอยู่ในระยะวังกะ และจะเข้าทำมุมกับ ลัคนา (As) และราหู (Moon Node)ต่อไปอีกสักระยะ


คราวนี้คำถามคือ แล้วเมื่อไรมันจะดีละ คำตอบง่ายๆ ก็คือ .....อ่า...เวลาหมด ง่วงแล้วแถมไข้ขึ้นด้วย คงต้องพักผ่อนแล้ว อ่านต่อคราวหน้าแล้วกันนะครับ

Friday, August 03, 2007

เมื่อหมอดูดันลืมคำทำนายของตัวเอง

ตั้งแต่พงษ์พันธ์มาปลุกความกระหายใคร่รู้ในเรื่องการใช้โหราศาสตร์มาใช้ในการพยากรณ์หุ้น ก็ลองผิดลองถูกทฤษฏีอยู่หลายแบบ ก็ให้ผลลัพท์ที่น่าสนใจทีเดียว ยิ่งลองลงทุนในหุ้นจริงๆแล้ว ความใส่ใจในรายละเอียดต่างกันเยอะเลย จากการเฝ้าดูหุ้น และการวิเคราะห์ทางโหราศาสตร์ ก็พอจะสรุปได้ว่าโหราศาสตร์สามารถนำมาใช้ในการพยากรณ์หุ้นได้จริงๆ ลองดูแล้วเราสามารถใช้เทคนิคทางโหราศาสตร์ได้ทุกประเภทในการวิเคราะห์นี้ โดยไม่แตกต่างจากวิธีการดูดวงชะตาของคนปกติเลย

อาจารย์วิโรจน์ เล่าให้ฟังว่า สมัยก่อน อาจารย์ประยูร เคยเขียนบทความเกี่ยวกับหุ้น จนเริ่มมีคนไม่สบายใจ หาว่าอาจารย์ไปใบ้หุ้น หรือปั่นหุ้นซะอย่างนั้นไป สุดท้ายอาจารย์ประยูร จึงต้องหยุดเขียนไป ผมฟังแล้วคิดทันทีเลยว่า อยากเห็นบทความเรื่องหุ้นของอาจารย์ประยูรจริงๆเลย อยากรู้ว่าท่านทำนายอย่างไร จึงต้องมีคนมาขอให้ท่านหยุด และจะเอามาแกะวิธีการ หรือแนวทางที่แกใช้ด้วย แฮ่ๆ แบบว่าอยากได้วิชา

อ่านตำราโหราศาสตร์เพื่อการลงทุนนี้เห็นชัดว่าข้อมูลของตลาดบ้านเรา กับในเมืองนอกนี้ต่างกันคนละชั้นเลย ฝรั่งมันชอบสถิติ เก็บไว้หมดทุกอย่าง เมื่อจะเอาวิเคราะห์อะไรข้อมูลเพียบ ทดสอบทฤษฏีได้เลยว่า อันไหนใช้ได้ อันไหนใช้ไม่ได้ แต่ไม่เป็นไรบ้านเรามีน้อย เราก็จะสู้ วิเคราะห์เองตามมีตามเกิดนี้แหละ

ลองค้นในคัมภีร์พระเคราะห์สนธิ ของโหราศาสตร์ยูเรเนียน พบว่ามีจุดอิทธผล ตลาดกระทิง และตลาดหมี ด้วยอะ สุดยอด ผมจึงอดสงสัยไม่ได้ว่าวิคเตอร์ หรือท่านปรมอาจารย์ท่านอื่นๆมีแอบเล่นหุ้นด้วยหรือเปล่าเนี้ย ผมทดสอบดูกับตลาดหุ้นไทยในอดีต นี้ก็แป๊ะ ชัดเจน เมื่อไรที่ จุดกระทิงถึงจุดเจ้าชะตาเมื่อไร ตลาดเปลี่ยนมาเป็นขาขึ้นเลย พอจุดหมีเข้าปั๊บ ตกทันทีเลย

และจากการเก็บข้อมูลด้วยการลงสนามจริง ผมพบว่าปัจจัยโดดมีความสำคัญอย่างมากต่อจังหวะการเปลี่ยนแปลงของหุ้นแต่ละตัว และตลาดโดยรวม ให้ความแม่นยำน่าประทับใจกว่าบทวิเคราะห์เชิงเทคนิคชองโบรกเกอร์เสียอีก

สองสามวันที่ผ่านมานี้ ผมนั่งเซ็ง จิตตกสุดฤทธิ เพราะหุ้นตกตามคำทำนายเลย จริงๆแล้ว น่าจะดีใจถึงจะถูก เพราะเราเองไปบอกคนอื่นไปทั่วว่าสิงหาคม - กันยายนนี้ ตลาดหุ้นจะแย่ ระวังจะติดหุ้น บอกแฟนด้วยให้เตือนเราให้ออกจากตลาดก่อนสิงหาคม

แต่......แฟนไม่อยู่....ไปปฏิบัติธรรม (แอบโทษแฟนเลย) และตัวเองดันลืมถือหุ้นอยู่เต็มพอร์ต แม้ว่าพอจะไหวตัวทัน แต่ผลการดำเนินงานการจัดการกองทุนส่วนบุคคล (ของผบ.ทบ.) ก็ลดต่ำลงอย่างหน้าใจหาย อ่า แล้วหัวเราจะแตกไม่นี้

คราวหน้าจะมาเล่าให้ฟังว่า ปัจจัยอะไรที่บอกว่าหุ้นจะตกแล้ว หรือ เห็นจังหวะดาวอะไรที่น่าสนใจจากการเฝ้าตามตลาดหุ้น

Tuesday, June 19, 2007

อ่านบทความโหราศาสตร์ ของ อาจารย์ท่านหนึ่ง แล้วไม่เข้าใจจริงๆ

ในช่วงพักกลางวันได้มีโอกาสนั่งอ่าน นสพ. กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 7 มิถุนายน 2550 บทความถอดรหัสลับดวงดาวของ ท่าน ยูเรสโตร ซึ่งรู้จักกันโดยทั่วไปว่า ท่านเป็นอาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ดีกรีระดับด๊อกเตอร์ ในหัวข้อ คดียุบพรรค ที่ตีพิมพ์บนหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

ผมรู้สึกแปลกๆในการวิเคราะห์ดวงชะตาพรรคประชาธิปัตย์ เพราะรู้สึกขัดแย้งกับความรู้ทางโหราศาสตร์ของผมอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเวลาก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ที่ ยูเรสโตร เลือกใช้ (6 เม.ย. 2489 เวลา 8.00 น.) ท่านแค่ให้คำจำกัดความว่า น่าจะเหมาะสมเท่านั้น

การหาเวลาก่อตั้ง ก็เทียบเท่ากับการหาเวลาเกิดของบุคคล นอกจากจะต้องประเมินข้อมูลของเจ้าชะตาแล้ว ยังต้องประเมินจากเหตุการณ์จรต่างๆที่เกิดขึ้นด้วย เหตุการณ์หรือข้อมูลที่ต้องใช้ ส่วนใหญ่มักเลือกเฉพาะในสิ่งที่เจ้าชะตาไม่สามารถควบคุมได้ เพราะเป็นสิ่งที่บ่งบอกชัดเจนว่าเจ้าชะตาต้องประสบกับสิ่งอะไรบ้างในชีวิต ซึ่งหลีกหนีไม่ได้ การเลือกใช้บุคลิกภาพ หรือรูปร่างมาใช้ปรับเวลาเกิด เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะเป็นเหตุที่เปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม และช่วงเวลาของเจ้าชะตา

อ.ยูเรสโตร ท่านให้เมอริเดียนอยู่ 6 กุมภ์ 51 และ ลัคนา 15 พฤษภ 53 และกล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคที่ตามกระแส ไม่เป็นพรรคที่นำกระแส มีภาพลักษณ์แบบอนุรักษนิยม ไม่ชอบผลักดันนโนบายแนวใหม่ๆ ดูเหมือนขาดความริเริ่ม หรือความกล้าหาญในการชู และพลักดันนโยบาย...

แต่จากคัมภีร์พระเคราะห์สนธิ ของ อ.ประยูร พลอารีย์ (แปลมาจากหลักสูตรโหราศาสตร์ฮัมบรูค เยอร์มัน)

เมอริเดียนในราศีกุมภ์ มักมีเป้าหมายใหม่ๆ และมีความพยายามใหม่ๆ กระทำการเป็นระยะๆ บางทีก็ฟันฝ่าไปอย่างปุบปับฉับพลัน ใช้หนทางปฏิบัติที่ดีที่สุด ทำงานร่วมกับผู้อื่นภายใต้การอำนวยการของตน ชอบความใหม่และแปลกใหม่ แผนมาก

ลัคนาในราศีพฤษภ สภาพแวดล้อมงดงามและสงบ มีหรือเกี่ยวข้องกับที่ดิน มีสัมพันธภาพที่แน่นอนและมั่นคง เหนียวแน่น มัธยัสถ์ ชีวิตมีรูปแบบไปทางด้านปฏิบัติ สมบูรณ์พูนสุข ฟุ่มเฟือย หรูหรา หัวรั้น ตระหนี่

จากดวงกำเนิด ณ เวลา 8.00น. ในเรือนที่ 1 มีจันทร์ และยูเรนัสอยู่ แต่ท่านยูเรสโตร ให้ข้อมูลว่า "ยูเรนัส อยู่ในเรือนที่ 2" อันนี้เป็นข้อที่ผมงงมาก ท่านไม่น่าจะพลาดง่ายๆ อย่างนี้

มฤตยูในเรือนที่ 1 มีเหตุการณ์เปลี่ยนแปลง เหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดความประหลาดใจ และเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดความตื่นเต้นเกิดขึ้นอย่างฉับพลันทันทีทันใดภายในครอบครัว ในชีวิตสมรส รวมทั้งแก่บรรพบุรุษ ญาติมิตรและสิ่งแวดล้อมที่ใกล้ชิดด้วย มีการเปลี่ยนแปลงชีวิตอย่างฮวบฮาบและเป็นไปในลักษณะ ฉับพลันทันทีทันใด การคุ้นเคยกันในทันที เป็นบุคคลที่มีอะไรแปลกๆ มีอะไรใหม่ๆ เป็นนักค้นคว้า หัวสมัย

จันทร์ในเรือนที่ 1 มีคนรู้จักคุ้นเคยมาก ญาติและคนรู้จักคุ้นเคยเพศหญิง มีความพัวพันกับบุคคลหลายคน หรือกับราษฎรภายในสิ่งแวดล้อมของเจ้าชะตา เปลี่ยนแปลงง่าย มีชีวิตเปลี่ยนแปลงและผันแปรไปต่างๆ มีธุระกิจที่ต้องพัวพัน กับนักผจญภัยหรือกับการผจญภัย

เมื่อพิจารณาความหมายดาว และเรือนชะตา ดูเหมือนว่าจะไม่สอดคล้องกับคำนิยามลักษณะของพรรค์ ประชาธิปัตย์ ที่ท่านกล่าวไว้เลย

ด้วยความเห็น หรือความรู้ของผม ณ ขณะนี้อาจจะไม่ถูกต้อง หรือไม่เชี่ยวชาญพอ แต่ด้วยทฤษฎีเรือนชะตา ของยูเรเนียน (โหราศาสตร์สำนักฮัมบูรก์)แล้ว ทำให้ผมได้ข้อสรุปว่า ไม่ควรเชื่อเวลาก่อตั้งพรรค ณ เวลา 8.00 น. ตามที่ท่าน ยูเรสโตร บอกว่าน่าจะเหมาะสม

Friday, June 01, 2007

ประเด็นที่น่าสนใจจาก ยุทธวิธีโหร

แม้ว่าอ่านยุทธวิธีโหรไปได้เพียงครึ่งเล่ม ก็พบประเด็นที่นักศึกษาโหราศาสตร์มักจะลืมไปเสมอเวลาที่วิเคราะห์ดวงชะตาของผู้อื่น หรือแม้กระทั่งตนเอง

โวห์ล พิจารณาภาพใหญ่ของชีวิตเสียก่อนเสมอ คือ พื้นดวงชะตาเดิม เพื่อวิเคราะห์ลักษณะบุคลิกภาพ ลีลาการดำเนินชีวิต เพื่อเป็นข้อมูลในการพิจารณาดวงชะตาจรต่อไปเสมอ จากนั้น ก็จะใช้ดวงไตรมาส หรือดวงชะตา ณ ช่วงเปลี่ยนฤดูกาล (เมษ กรกฎ ตุล และมกร) พิจารณาผสมร่วมกับดวงรายเดือนอย่าง อมาวสี (New Moon) หรือ ปูรมี (Full Moon) จากนั้นค่อยพิจารณาการพยากรณ์จากดาวจรต่อไป เรียกได้ว่า มองภาพกว้าง แล้วค่อยๆ ซูมลงไปทีละนิดจนละเอียด

ในเรื่องการพิจารณาเรื่องสงครามเกิดที่ใดนั้น โวห์ลจะพิจารณาอยู่ 2 ประเด็นใหญ่ คือ ดวงเมือง และดวงของผู้นำของเมืองหรือประเทศนั้น ต้องสอดคล้องกันทั้ง 2 อย่างจึงจะมีน้ำหนักเพียงพอที่จะบอกได้ว่า เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นหรือไม่ และที่ใด ในหนังสือผู้เรียบเรียงกล่าวว่า เป็นกฏเกณฑ์สำคัญยิ่งในการพิจารณาเหตุการณ์บ้านเมือง

และที่ผมชอบมากที่สุด คงจะเป็นคำกล่าวในหนังสือที่ว่า "เราโหรเป็นมนุษย์ เพราะฉะนั้นย่อมต้องอยู่ใต้ความครอบงำของความโฉดเขลาในการตัดสินให้ถูกต้อง อันมีประจำตัวมนุษย์ซ้ำแล้วซ้ำอีกอยู่ตลอด เหมือนๆ กับคนอื่นๆ ด้วยกันทั้งนั้น...."

Thursday, May 17, 2007

ความรัก และโหราศาสตร์

มีคนเล่าให้ฟังว่าน้องที่ทำงานมาฟ้องเรื่องที่ ผมไม่ยอมดูดวงให้ซักที ขอร้องมาตั้งเป็นเดือนแล้วก็ไม่ยอมดูให้ ผมฟังแล้วก็ขำเพราะทุกครั้งที่น้องคนนี้เจอหน้ากัน จะต้องร้องให้ดูดวงร่ำไป สาเหตุก็เพราะสาวเจ้ากำลังมีปัญหาเรื่องความรักนั้นเอง และที่สำคัญก็คือ ดันเคยทำนายเรื่องอกหัก หรือมีปัญหาเรื่องความรักในช่วงเดือนมีนา-เมษา ปี50 ทั้งๆที่ตอนที่ทายไปนั้น(พ.ย. ปี49) น้องเขายังไม่ได้มีแฟน หรือมีใครมาจีบเลย แล้วดันเกิดเหตุการณ์นี้จริงๆ!!!

ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม เวลาที่ทักอะไรก็ตามกับน้องคนนี้ มักจะทายถูกเสมอ และอย่างเหลือเชื่อด้วย ครั้งหนึ่งเคยใช้ Horary ทายลักษณะของคนที่เข้ามาจีบได้อย่างมหัศจรรย์ แม้กระทั่งคนทายเองยังงงๆว่า ตอนนั้นทำไมพูดอย่างนั้นไปได้อย่างไร "ตอนนี้มีคนมาจีบ 2 คนนะ คนหนึ่งเป็นอาจารย์ อีกคนเป็นเซลล์ เราอะชอบคนเป็นอาจารย์ เพราะหน้าตาดีกว่า อีกคนชอบแบบเพื่อน" แล้วก็..ถ.ถ.ถูกต้องนะคร้าบ!! น้องเหวอไปเลยคร้าบ!! ครั้งหน้าผมจะเอาดวง Horary นั้นมาให้ดูว่าชัวร์หรือมั่วนิ่ม

อย่าว่าแต่น้องสาวผมคนนี้ที่มาพร่ำถามเลย ในเวปไซต์ก็กระทู้ดูดวงฟรีแทบทุกกระทู้ต้องถามเรื่องเนื้อคู่ ความรัก แต่หลักๆก็คือ ทุกคนมีความทุกข์ ตัดสินใจไม่ได้ งง คิดอะไรไม่ออก สุดท้ายก็ต้องมาจบที่โหราศาสตร์ หรือศาสตร์การพยากรณ์แขนงอื่น เพราะดูเหมือนจะเป็นสิ่งเดียว และที่พึ่งกระมั่งที่สามารถสร้าง หรือให้ความหวังแก่เขา นี้ยังไม่รวมเรื่องการสะเดาะห์เคราะห์ แก้เคล็ด สารพัดจะคิดได้ อย่าว่าแต่เขาเลย ผมเองในยามที่มีปัญหาเรื่องความรัก หรือความทุกข์ใดๆก็ตาม เมื่อคิดแล้วคิดไม่ออก ก็ต้องพึ่งโหราศาสตร์เหมือนกัน ช่วงหลังเริ่มเน้น อิ้จิง ศาสตร์การทำนายเก่าแก่ของจีน

แต่อยากจะบอกว่าทุกคนนะครับว่า อย่าถามเรื่องความรักกับผมเลย เพราะตัวหมอดูเองยังลำบากเลย ทั้งคนในครอบครัว และเพื่อนสนิทก็อยู่ห่างๆกันทั้งนั้น เมื่อเราไม่ได้อยู่กับคนใกล้ชิด สิ่งแวดล้อมที่ประสบพบเจอก็จะมีลักษณะเฉกเช่นเดียวกัน ขนาดน้องที่ทำงานในทีมเดิมมีแฟน ปัจจุบันสถานภาพโสดสนิท ดังนั้นใครถามว่าจะกลับมาดีกันไหม 80% หลับตาตอบ โดยไม่ต้องดูดวงได้เลยว่า ยากส์

Monday, April 30, 2007

วันเสาร์ที่สบายๆ อิ่มเอม และมีความสุข

บางที่การศึกษาโหราศาสตร์ ก็ทำให้เราเฝ้าสังเกตุพฤติกรรม หรือเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นรอบตัวเอง ด้วยหลักการทางโหราศาสตร์ที่แท้จริง คือ เรื่องราวของธรรมชาติ เราศึกษาโหราศาสตร์ เพื่อต้องการศึกษาธรรมชาติ เข้าใจธรรมชาติ และเข้าใจชีวิต การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และเปลี่ยนแปลง เป็นสิ่งจริงแท้ทางธรรมชาติ สอดคล้องกับหลักธรรม คำสอนของ พุทธศาสนา

ครั้งหนึ่งเคยบ่นกับอาจารย์ และเพื่อนๆที่เรียนโหราศาสตร์ด้วยกันว่า ตั้งแต่เรียนโหราศาสตร์แล้ว รู้สึกว่าใช้ชีวิตลำบากขึ้น หากช่วงไหนรู้ว่ามีดาวไม่ดีกำลังส่งผล ก็ระมัดระวังตัวสุดชีวิต ช่วงไหนรู้ว่าดาวดี เช่น พฤหัส ศุกร์ ทำมุมถึงจุดเจ้าชะตา ก็เฝ้าสังเกตดูว่าเรื่องดีๆจะมีอะไรบ้างในช่วงนั้น ปัจจุบันเราก็ยังไม่สามารถฝึกตนให้นิ่ง และผ่านเรื่องราวด้วยความแจ่มใจ และเบิกบาน ก็คงต้องฝึกตน และฝึกจิต ต่อไป

วันเสาร์ที่ผ่านมา (28/4/07) เป็นวันที่พบเจอแต่เรื่องดีๆทั้งนั้น จนรู้สึกประหลาดใจ อดไม่ได้ที่ต้องหยิบมือถือเปิดดูว่า วันนี้ดาวอะไรทำมุมอยู่บ้าง

Su t= As n= Ve n วันที่พบเจอ หรืออยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีความสุข ความสวยงาม หรือศิลปะ และ ความพอใจ 

Me t = No n = Ju n ได้พบเจอ หรือเรียนรู้ สิ่งเกี่ยวข้องที่เกี่ยวข้องกับวิชาการ ความสำเร็จ ความรู้ ความสำเร็จ และความเบิกบาน

ตอนแรกตั้งใจไปจตุจักรเพื่อหาชั้นวางหนังสือ เดินหาอยู่หลายเที่ยว เจอที่ต้องการเพียงร้านเดียว ต้องการเช็คราคาอีกหลายแห่ง จึงเดินหาร้านอื่นๆต่อไป แต่อดไม่ได้ที่ต้องผ่านๆร้านขายหนังสือเก่าบ้าง ก็ไม่มีอะไรน่าสนใจ จนกระทั้งเห็นหนังสือ "ยุทธวิธีโหร" ที่อยากได้มาก แม้ว่าจะมี PDF อยู่แล้วก็ตาม(ไฟล์ที่ได้ตัวหนังสือไม่ค่อยชัด)(ดาวพฤหัส หนังสือ ความรู้) วางเด่นไปสง่าบนหน้งสือเก่าพวกภาพยนตร์ ดารา (ดาวศุกร์)

เดินมาอีกสักพัก เจอพรรคประชาธิปัตย์ขายหนังสือ คำให้การพรรคประชาธิปัตย์ กรณีถูกฟ้องยุคพรรค กับโฆษกพรรคฯ คุณ องอาจ มาดเท่ห์ยืนแจกลายเซ็นอยู่ จึงได้มาอีก 3 เล่มเพราะชื่นชอบอยู่แล้ว (น่าจะเป็นดาวพฤหัส ผู้ประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียง)

ถัดมาอีกหน่อยจะเจอ สาวน้อยอายุน้อยๆ ยืนร้องเพลงเพราะๆ ด้วยหน้าตายิ้มแย้ม มาคระดับนักร้องอาชีพจริงๆ เพื่อหาทุนการศึกษา ถ้าจำไม่ผิดเคยเหตุสาวน้อยคนนี้บนหน้งสือพิมพ์มาแล้ว รู้สึกชอบ และชื่นชม นอกจากนั้นบริเวณรอบๆนั้นก็ยังมี Street Show อีกหลายหลาก (ดาวศุกร์ ศิลปะ การแสดง)

และยังได้การ์ตูนชุดที่อยากอ่าน แต่ไม่สามารถหาได้ครบชุด แม้กระทั้งจากสำนักพิมพ์เอง ดันเจอเหลือเชื่อ (ดาวศุกร์ ศิลปะ ลายเส้น การ์ตูน)

สุดท้ายกลับไปเอาชั้นวางหนังสือที่ร้านเดิม ฮ่าๆ แต่ก็สามารถต่อรองให้เขาเอามาส่งที่คอนโดได้ เย้ไม่ต้องขนมาเอง (พุธ = พฤหัส การเจรจาที่ประสบผลสำเร็จ)

เดินทางกลับมาที่พารากอน เพื่อกินข้าวเย็น ระหว่างรอแฟน ก็ยืนดูคอนเสริต วง Paradox (มันส์จริงๆ เริ่มชอบวงนี้มากขึ้นแล้ว ศุกร์ ศิลปิน นักร้อง) เดินขึ้นมาที่ชั้น 2 ของห้าง เจอสาวๆสวยๆ E-Girl ของ KBank พึ่งประกวดได้ผู้ชนะเสร็จพอดี (ดาวศุกร์ อีกแล้ว สาวสวย)

เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในวันนี้จึงอบอวน และเต็บไปด้วยกลิ่นอายของดาวศุกร์ทั้งนั้น ปกติคนเรามักจะเลือกจำแต่วันแย่ๆ เหตุการณ์ร้ายๆ สิ่งที่ไม่ดีทั้งหลาย หากเราจะสังเหตุ และชื่นชมไปกับเหตุการณ์เล็กๆ ที่แสนอบอุ่นๆ เหล่านี้ที่เกิดขึ้นรอบตัวเรา วันที่ไม่คิดว่าจะมีอะไรก็อาจจะเป็นวันที่ทำให้เราอิ่มเอง และมีความสุขได้เหมือนกัน

Friday, March 16, 2007

การ์ตูนเรื่อง Pluto ตามล่านักฆ่าแอนดรอยด์ สนุกจริงๆ

หลายวันมานี้ตามหาซื้อการ์ตูนเรื่อง Pluto ตามล่านักฆ่าแอนดรอยด์ ตามร้านขายการ์ตูนแทบทุกร้านที่เจอ ปรากฏว่าไม่เจอซักร้าน แถมบางร้านยังไม่รู้จักเสียอีก ไม่รู้ว่าขายดีหรือว่าพิมพ์ออกมาน้อยก็ไม่รู้

ความน่าสนใจของเรื่องนี้ คือ คนวาดการ์ตูน ชื่อ Urasawa Naoki ซึ่งเป็นวาดเรื่อง Monster คนปีศาจ (ผมชอบเรื่องนี้มาก) และเรื่อง 20th Century Boys แก๊งนี้มีป่วน (เรื่องนี้ยังไม่ได้อ่าน ต้องหามาอีกละ) แต่สามารถไปทาบทาม Tezuka Osamu คนวาด เจ้าหนูอะตอม ซึ่งเป็นเรื่องที่โด่งดังมากๆ ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ 50 ปีก่อน (ก่อนผมเกิดตั้ง 20 ปี)ให้อนุญาตินำโครงเรื่อง มาทำเป็นการ์ตูน Pluto เรื่องนี้

ในการ์ตูนเรื่องนี้ คือ เป็นยุคที่มนุษย์ อยู่ร่วมกับ หุ่นยนต์ และหุ่นยนต์ก็มีวิวัฒนาการก้าวไกลไปจนมีลักษณะที่ใกล้เคียงกับมนุษย์มากขึ้นเรื่อยๆ จนยากที่จะแยกออกว่า ใครคือ มนุษย์ และใครคือหุ่นยนต์ ในเรื่องนี้ หุ่นยนต์จะถูกตั้งโปรแกรมให้ไม่สามารถทำร้าย แต่เหตุการณ์เริ่มขึ้นจาก มองต์บลังค์ หุ่นยนต์ของกรมป่าไม้ ที่สวิสฯ ซึ่งมีชื่อเสียงมาก และมีความสามารถสูง กลับต้องจบ กลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย อย่างไร้สาเหตุ และร่องรอยใด เกซิคต์ ตำรวจหุ่นยนต์ ตัวเอกของเรื่อง กำลังสงสัยว่าจะเป็นฝีมือของหุ่นยนต์ น่าติดตาม อ่านจบเล่มแรกแล้วสนุกมาก

คราวนี้ก็มาถึงเรื่องของโหราศาสตร์ พลูโต ในทางโหราศาสตร์ มีความหมายถึง การพัฒนาการ การเปลี่ยนแปลง ความไม่คงที การเจริญเติบโต การแตกแยกออกไป การสถาปนาใหม่ การปฏิวัติ การแปลง การปฏิรูป

ผมว่าคนแต่งเข้าใจตั้งชื่อเรื่องนะครับ เพราะ Theme หลักของการ์ตูน มันเป็น พูลโต จริงๆ เพราะเหมือนกับเป็นยุคที่ต้องมีเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ มีกลุ่ม/บุคคล ซึ่งตอนนี้เราไม่รู้ว่าเป็นมนุษย์ หรือว่าหุ่นยนต์ กันแน่ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงระบบสังคมที่อยู่ในเรื่อง เรียกได้ว่าต้องการปฏิวัติสังคมเลยที่เดียว และเราจะเห็นถึงการวิวัฒนาการของสมองเทียมของหุ่นยนต์ที่เริ่มมีความใกล้เคียงกับมนุษย์มากขึ้น เพราะตัวเอกของเรื่อง เกซิคต์ มีการการละเมอ หรือฝันด้วย แถมขอโทษครับในเรื่องหุ่นยนต์ มีครอบครัว แต่งงาน และมีลูกด้วยนะท่าน

แต่อย่างไรก็ตาม ผมก็ขอขอบคุณ Uranus และ Neptune (สิ่งประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์ที่ไม่สามารถจับต้องได้ = อินเตอร์เนต, เวปไซต์, สื่อออนไลน์ต่างๆ) ด้วยนะครับที่ทำให้ผมสามารถหาซื้อการ์ตูน Pluto เล่มนี้มาได้สมใจ

Wednesday, March 14, 2007

Ebook และโปรแกรมโหราศาสตร์ฟรี บน อินเทอร์เนต

ได้ข้อมูลเด็ดจาก google groups สำหรับหนังสือ ebook และโปรแกรมที่เกี่ยวข้องกับโหราศาสตร์ ที่เผยแพร่ในอินเตอร์เนต

=========================

Free Astrology Programs for Your Computer

  1. The original Astrolog by Walter D. Pullen http://www.astrolog.org/astrolog/astfile.htm
  2. Astrolog32 Walter Pullen's program updated to use Swiss Ephemeris. http://uk.geocities.com/astrolog32/
  3. ZET Lite excellent program (Windows only, uses Swiss Ephemeris) http://www.zaytsev.com/
  4. Kairon 2.19 is PPC accelerated Astrology Software for the Apple Macintosh http://kilian.stern.net/Kairon_e.htm
  5. Canopus 2.1, Astrology Software (an older program from Clairvision School(http://www.clairvision.org/) with unusual user interface
  6. Astro123, AstroWin, & several other free programs are available at Allen Edwall's site http://www.astrowin.org/astro_sw.htm
  7. The full version of the Vedic program Jagannatha Hora 7.02 http://jhora.members.winisp.net/jh70_full.zip
  8. Cosmic Patterns, makers of the popular Kepler charting program, offer the free program "StarLite", it can be downloaded here. (Windows 95, 98, ME, 2000, or XP) http://cosmic.patterns.com/freeware.htm
  9. John Halloran's freeware Astrology for Windows http://halloran.com/astwin23.exe
  10. Junior Jyotish Version 1.09 & Quick Jyotish for Windows Version 0.09 are available at http://www.jyotishtools.com/windows.htm. They also offer Quick Jyotish for Linux at http://www.jyotishtools.com/linux.htm
  11. King of the Stars for Windows 95, 98, Me, NT, 2000 and XP offers the basic kernel for free. Expansion modules offered for sale. http://www.delemme.com/etel1.htm

Free references/e-books

  1. The e-books are available from World Astrology http://www.worldastrology.net/ebooks.html
  2. The Hermetics Library of Magical & Mystical E-Books (http://www.hermetics.org/ebooks.html) offers many free e-book downloads.
  3. E-books here http://toddcarnes.googlepages.com/astrologicale-books
  4. A wonderful site with lots of web-based tools, including some for looking up the positions of tons of asteroids all at once, etc.: http://ephemeral.info/too/
  5. topic of financial speculation and astrology. : http://astroblahhh.com/astrology/etexts/speculation/speculation.shtml
  6. A Manual of Astrology by Raphael http://books.google.com/books?vid=0GBKqjZZOUqgjxMJ&id=u4RF3OL6BxAC&pg=PP9&
  7. The Familiar Astrologer by Raphael http://books.google.com/books?vid=OCLC27252054&id=M8ORXevmgLEC&pg=PP13
  8. The Tetrabiblos by Ptolemy http://books.google.com/books?vid=0Duj0h6g2NFF-OSJ&id=RLiXR0mvLkQC&pr...
  9. There are two free editions of Ptolomy's Tetrabiblos available on Google Books. They are at
  10. http://books.google.com/books?vid=0A0ZfxlCE7ppa45H&id=D5UBX8Zj6xcC&pg=RA1-PA1&lpg=RA1-PA1 and at http://books.google.com/books?vid=OCLC05543422&id=h-nAMTDhD6sC&pg=RA1-PA11&lpg=RA1-PA1

Free Online Chart Calculation

  1. Astrodienst - free, user-friendly, VERY accurate charts....Home of the Swiss Ephemeris. http://www.astro.com/
  2. Astrolabe Free Online Chart Calculating Service http://alabe.com/freechart/

ที่มา : http://groups.google.co.th/group/alt.astrology.moderated/

Saturday, March 03, 2007

Youtube เวปไซต์มหัศจรรย์ที่ใครก็ต้องหันมามอง

แทบจะไม่มีใครในปัจจุบันนี้ที่ใช้งานเวปไซต์เป็นประจำ แต่บอกได้ว่าไม่เคยรู้จัก หรือได้ยินชื่อ Youtube เลย อย่างน้อยต้องเคยได้เข้าไปทดลองใช้บริการดูไฟล์วีดีโอบน Youtube ซักครั้ง

Youtube เป็นเวปไซต์ที่ให้บริการอัปโหลดข้อมูลที่เป็นไฟล์วีดีโอ และสามารถแลกเปลี่ยน หรือให้คนอื่นเข้ามาดูไฟล์วีดีโอดังกล่าวได้ ผ่านทางอินเตอร์เนตได้ทันที ยกตัวอย่างได้จาก วีดีโอพรีเซนเทชั่นงานแต่งงานของเพื่อน พงษ์พันธ์ ที่นำมาโพสไว้บน youtube เพื่อที่เพื่อนสามารถเข้ามาดูได้ง่าย อยู่ที่ไหน หากล๊อกอินเข้าอินเตอร์เนตได้ก็เข้ามาดูได้ทันที

ด้วยจุดเด่นของ Youtube นี้น่าสนใจมาก เพราะไฟล์วีดีโอที่เราต้องการเผยแพร่ ก็สามารถทำได้ง่ายขึ้น ไม่ต้อง upload ข้อมูลขึ้นบน Server ของตนเอง ประหยัดเนื้อที่ และ Bandwidth ไปได้อีกเยอะ เพียงเรา upload ข้อมูลขึ้นบน Youtube และนำ Html code มาใส่ในหน้าเวปไซต์ของเราก็สามารถเล่นไฟล์วีดีโอนั้นได้แล้ว ดังที่เห็นในกระทู้ที่ผ่านมา

วันหลังต้องลองทำ e-learning อย่างง่ายๆ ของคลิปวีดีโอ การเรียนการสอน หรืองานสำคัญต่าง ของมูลนิธิสมาคมโหรฯ มาทดลองเผยแพร่บน Youtube บ้าง เผื่อว่า www.horathai.com และ www.horauranian.com จะโกอินเตอร์บ้าง

ประวัติของเวปไซต์ Youtube น่าสนใจเลยที่เดียว ขอติดไว้ก่อนจะมาเล่าให้ฟังที่หลัง พร้อมกับลองดูดวงชะตาของเจ้าของเวปไซต์นี้กันดีกว่าว่ามีอะไรเด่นมากขนาดที่สามารถสร้างเวปไซต์เพียง 18 เดือน ก็สามารถขายให้กับ Google ได้มูลค่าถึง 1.65 พันล้านเหรียญสหรัฐ

-----------------------------------------------------

ของแถมสุดท้ายสำหรับคนที่ต้องการโหลดคลิปวีดีโอของ Youtube เก็บไว้ดูแบบ offline สามารถทำได้ง่ายๆครับ

1. ใช้บริการ download ผ่านเวปไซต์ http://javimoya.com/blog/youtube_en.php เพียงแค่นำ url ของคลิปวีดีโอนั้นมาใส่ในช่องสำหรับใส่ข้อมูลในหน้าเวปไซต์ จากนั้นก็กด download เพื่อ save เป็นคลิปวีดีโอในเครื่องของเรา โดยให้ save เป็นนามสกุล .flv นะครับ

หรือ ใช้โปรแกรมสำหรับ download เฉพาะอย่าง GVDownloader วิธีการอื่นๆคล้ายกันครับ

2. ใช้โปรแกรมสำหรับเล่นคลิป .FLV เปิดครับ ผมทดลองใช้โปรแกรม FLV Player ก็ใช้ได้ง่ายดี และเป็น freeware ด้วย นอกจากโปรแกรมนี้ก็มีคนแนะนำ Riva FLV Player เป็น freeware เช่นเดียวกันครับ

ที่มา :

1. http://www.liverpoolthailand.com/webboard/index.php?showtopic=9477

2. http://zippher.exteen.com/20060213/movie-youtube

Final Decision : วิดีโอพรีเซนเทชั่นงานแต่งงานรูปแบบใหม่

ตอนนี้ก็ไม่เกี่ยวกับโหราศาสตร์เลย แต่อยากนำมาเล่าให้ฟัง

ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2550 ที่ผ่านมาพงษ์พันธ์เคยเล่าเรื่องวีดีโอพรีเซ็นเทชั่นของงานแต่งของเพื่อนว่าแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร ทำออกมาในแนว Reality คือ จะมีตากล้อง 2 คนคอยตามว่าที่เจ้าบ่าว และเจ้าสาว 1 วันเต็มๆ เพื่อคอยดูการใช้ชีวิตของแต่ละคน สัมภาษณ์เพื่อนๆ แล้วค่อยนำไปตัดต่อ และนำไปฉายในวันงาน

ได้ข่าวว่าตอนแรกๆ ก็ดาราแต่ละคน ขัดๆเขินๆ ออกอาการเกร็ง ไม่เป็นตัวของตัวเอง (แบบชาววิศวะ) จนค่อยๆหลุดไปเรื่อยๆ แต่หลังจากดูจบแล้ว คงถูกตัดออกไปเยอะเหมือนกัน แต่โดยรวม น่าสนใจมา และสนุกดีครับ

ขออวยพรให้ทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวมีความสุขมากๆ

=======================================

Pongpunt :

Video created for my friend's wedding party. I think it's nice for the idea that make both guests in party know broom and bride more. If you noticed, my house is one of background in this video.

Thursday, March 01, 2007

ความหมายทางโหราศาสตร์ของดาว จาก www.horathai.com

อ.วรกุลได้อธิบายถึงความหมายทางโหราศาสตร์ของดาวแต่ละดวง ในกระทู้ คุยกันสบายๆ..........ตามประสาโหราศาสตร์ไทย ( 23)ของ horathai ที่ใช้ในโหราศาสตร์ไทย น่าสนใจมาก เมื่อเปรียบเทียบกับบทความ เรื่องความหมายของดาว จากหนังสือ Horoscope Symbols ของ Robert Hand พบว่าคล้ายคลึงกันมาก

ซึ่งทำให้เชื่อได้อย่างหนึ่งว่าปรัชญา หรือความหมายทางโหราศาสตร์ของดาว แต่ละศาสตร์ ก็ล้วนมาจากที่เดียวกัน เป็นความหมายเดียวกัน ทุกศาสตร์ใช้ด้วยกันได้

ดังนั้นความหมายที่ อ.วรกุล ให้มานี้ ในทางโหราศาสตร์สากลก็ย่อมสามารถใช้ความหมายเดียวกันนี้ เช่นเดียวกัน

==============================

การจำแนกกรอบธรรมชาติ หรือ ระบบธรรมชาติที่โหราศาสตร์ใช้ ดังที่กล่าวมาโดยสังเขปในข้อเขียน 3 – 4 ตอนก่อนหน้านี้ เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ หากใครมีเวลา อยากจะแนะนำให้ขยายความแต่ละกรอบธรรมชาติออกไปเพราะยังกว้างขวางมาก เหมือน กล่าวถึงเพียง ภูเขา ทะเล มหาสมุทร โดยสังเขป เพียงเพื่ออ้างอิงลักษณะของสัตว์บก สัตว์น้ำ เท่านั้น ที่จริงยังมีเนื้อหาที่สำคัญๆอยู่อีกมาก โหราศาสตร์บางระบบวางกฎเกณฑ์อยู่ในกรอบธรรมชาติเดียวล้วนๆก็มี และก็สามารถใช้ศึกษาพยากรณ์ได้อย่างกว้างขวาง โหราศาสตร์ไทยจะซับซ้อนมากกว่า เพราะใช้ธรรมชาติถึง 4 ระบบในการวางหลักวิชา ก็จะเป็นประโยชน์ในอ้างอิงสำหรับการเขียนต่อไป ที่จริงกรอบธรรมชาติทั้งสี่นี่แหละคือ สิ่งสำคัญ แม้จะดูแล้วไม่เห็นจะมีอะไรเพราะเรายังใช้ไม่เป็น ดังนั้น ประโยชน์ขั้นแรกที่ควรใช้ก่อนก็คือ เมื่อเราอ่านหนังสือ หรือ ข้อความของผู้ใด หากพอจะดูน่าเชื่อถือดี ลองดูว่า สิ่งที่เขากล่าวถึงนั้นอยู่ในกรอบธรรมชาติระบบไหน แล้วเอามาขยายความก็จะเป็นความรู้ที่หาได้ยาก

อย่างเช่น เราเรียนจากตำราว่า ดาวคู่ “๒๗” นี้คือ ความแตกแยกพลัดพราก ความหมายนี้เกิดจากธรรมชาติในจักรวาลใหญ่ก่อน จันทร์ เป็นนามธรรมของการเพิ่มจำนวน เมื่อเสาร์ มีธรรมชาติที่ บีบรัดเข้า จึงทำให้ขัดกัน หากสองฝ่ายทำหน้าที่ของมันทั้งคู่ ก็จะทำให้ธรรมชาติถูกฉีกออกเป็นส่วนๆ ละเอียด ชิ้นเล็กๆ หมายถึงความแตกแยก ในระบบของจักรราศี เสาร์เป็นประ เรือนจันทร์กรกฏ และจันทร์ก็เป็นประเรือนเสาร์ ทำให้ธาตุของจันทร์และเสาร์ คุมตัวกันอยู่ไม่ได้ มักกระจายออกหากไปตกอยู่ในเกษตรราศีของอีกฝ่ายหนึ่ง และหากธาตุทั้งสองนี้ทำหน้าที่อะไรในดวงชะตาที่เกิดจากโลก เช่น เสาร์ประนั้นเป็นเจ้าเรือนกัมมะ ก็แสดงว่า อาชีพการงานนั้นย่อมที่จะพลัดพรากเสมอ เนื่องจากแตกสลายไม่มั่นคงถาวร แม้จันทร์พันธุไปเป็นประบ้าง ก็แสดงว่าเจ้าชะตาจะมีหลักแหล่งภูมิลำเนาไม่อยู่คงที่ มักจะมีความแตกแยกจากสถานะเดิม และพลัดพรากจากถิ่นเกิดไปเสมอ นี่เป็นคำทำนายที่มีต้นตอมาจากธรรมชาติของนามธรรม ที่เปลี่ยนมาเป็นธาตุในดวงชะตาที่เกิดจากโลก นามธรรมแต่ละดวงจึงแปรเป็นเรื่องราวและสิ่งของได้หลายชั้น ตามแต่ที่มันแสดงตนอยู่ในกรอบใด และนามธรรมพื้นฐานสองดวงขึ้นไปยังสามารถแปรเป็นนามธรรม และรูปธรรมอื่นๆได้อีกมากมาย ซึ่งวิธีนี้แหละที่เราใช้อ่านวัตถุสิ่งของและรูปลักษณ์ของคนในดวงชะตา

ข้อควรระวังในการดูดวงชะตาจึงอยู่ตรงนี้ก็คือ อย่าใช้ความหมายของนามธรรมในกรอบธรรมชาติหนึ่งไปผสมรวมกับอีกกรอบหนึ่งโดยไม่จำเป็น เพราะธรรมชาติเองจะมีความผสมกลมกลืนได้ในระดับของมันมากกว่าการผสมต่างระดับ นอกจากนั้น เราต้องระลึกไว้ว่า ความหมายที่เกิดขึ้นนี้ไม่ได้แสดงคุณโทษจนกว่าจะมีเหตุแสดงว่าผลที่เกิดขึ้นนั้นถูกใช้เป็นคูณหรือเป็นโทษ คือ ธรรมชาติจะเป็นกลางๆอยู่เสมอ ไม่ได้ลำเอียงไปในข้างใด อย่างเช่น ๒๗ ที่กล่าวมา พวกเรามักมี อคติทายในทางไม่ดี ซึ่งไม่ถูก เปรียบเทียบอย่างง่ายๆ ๒๗ ความแตกแยกพลัดพรากนี้ รูปธรรมอาจจะเป็นขนมกรุบกรอบที่เปราะแตกง่าย เช่น ถั่ว ข้าวเกรียบ แคร้กเก้อร์ ฮานามิ เหล่านี้ก็ ๒๗ เหมือนกัน หากเรากินเป็นขนมอาหารก็อร่อยดีเป็นประโยชน์ แต่ถ้ามันติดคออุดหลอดลมก็เกิดโทษ จะเห็นว่าตัวขนมเองไม่ได้เกี่ยว แต่ผลที่รูปธรรมนั้นแสดงออกจะเป็นคุณหรือโทษนั้นขึ้นอยู่กับดวงชะตาต่างหาก

ที่นี้เราลองมา นึกเรื่องที่บอกมาแล้วดูโดยรวมบ้าง เราจะเห็นว่า จักรวาลใหญ่ หรือ เอกภพนี้เป็นที่มาของนามธรรมที่อยู่กระจัดกระจายทั่วไป เปรียบเหมือนพื้นที่ดินกว้างๆที่มีต้นไม้ใบหญ้า บ่อน้ำ และทางเดิน อยู่ตามธรรมชาติ ไม่ได้มีผู้ใดเป็นเจ้าของ สุริยจักรวาล นี้ ก็เหมือนมีผู้มาล้อมรั้วเข้าจัดเป็นอาณาเขตเฉพาะของตน ดวงชะตาของโลก ก็เป็นการวางผังต่างๆเพื่อให้ใช้พื้นที่แต่ละอย่างทำหน้าที่สำหรับใช้สอย เช่นเพื่อการเกษตร เพาะปลูก แปลงผัก ส่วนดวงชะตาส่วนตัว ก็คือบ้านของเจ้าของที่ ซึ่งใช้ประโยชน์ในพื้นที่นี้ ตามความพอใจของตนเอง เกิดจากลัคนาและเรือนของเรา

การที่บังเกิดลัคนา และเรือนทั้ง 12 เรือนนั้นสำคัญมาก เพราะลัคนาเป็นที่เข้าออกของธาตุที่ผ่านเข้าสู่ดวงชะตา แล้วหมุนวนผ่านเรือนทั้งสิบสองกลับไปออกที่ลัคนาอีก เรือนจากลัคนานี้ เท่ากับครอบกำหนดหน้าที่ให้แก่ เกษตรราศี ให้ทำหน้าที่เป็น เกษตรเรือน หรือ เจ้าเรือน ความสัมพันธ์ระหว่างเรือนและเจ้าเรือนจึงเป็น ระบบเรือนชะตา ในขณะเดียวกันที่ ธาตุถูกกำหนดหน้าที่ในเรือนชะตานั้นเอง มันก็มีลักษณะและรูปแบบที่กำหนดโดยจักรราศี และดวงโลกอีกด้วย เมื่อ มีสิ่งกระตุ้นคุณสมบัติของมันในกรอบระบบใด คุณสมบัตินั้นก็จะแสดงออกมาได้เสมอ เราจึงสามารถอ่านคุณสมบัติของมันในจักรราศี และ โลก เรียกว่า ระบบดาว แต่ถ้าหากระบบเรือนสามารถแสดงออกได้เมื่อใด คุณสมบัติเหล่านั้นจึงส่งผ่านมาแสดงออกแก่เจ้าชะตาได้ ดังนั้น ลัคนานี่เองจึงเป็นสิ่งที่ต่อเชื่อมระหว่างธาตุในกรอบระบบต่างๆ เนื่องจากลัคนาของเราจะปรากฏทั้งในจักรราศี โลก และ ดวงชะตาเรา ในตำแหน่งที่ตรงกัน

ดังนั้น เมื่อเปรียบเทียบกรอบธรรมชาติทั้งสี่กับดวงชะตาแล้ว ดวงชะตาในโหราศาสตร์ไทย จึงเหมือนกับดวงชะตาที่มี 4 ชั้นทับกันอยู่ ซึ่งทุกกรอบธรรมชาติจะแสดงผลต่อดวงชะตาได้ ดวงชะตาแบบไทย ที่มีช่องเส้นคู่ขนานตรงกลางตัดกันซึ่งเราใช้กันอยู่นั้น จึงเป็นดวงชะตาชีวิตของเราเอง และเป็นช่องทางหรือ ผลที่บังเกิดจากกรอบธรรมชาติทั้งสี่สัมพันธ์กัน หากเราแบ่งตามหน้าที่ของปัจจัยในกรอบธรรมชาติแล้ว ก็จะเปรียบเหมือน ปัจจัยในกรอบของจักรวาล หรือ เอกภพ เป็นเสมือน ธาตุพื้นฐานวัตถุดิบ สำหรับสร้างชีวิต สุริยจักรวาล บังคับเอาธาตุพื้นฐานเข้ามาเป็นรูปแบบ ของชีวิตในที่กำหนดในจักรราศี โลก หมุนนำเอาธาตุในสุริยจักรวาลเข้ามาแสดงลักษณะของชีวิตและสิ่งแวดล้อมบนโลก และสุดท้าย คือดวงชะตาของเรา ซึ่งเกิดจากลัคนา และบังเกิดเรือน ซึ่งก็คือ ความสัมพันธ์ หรือ หน้าที่ ซึ่งกำหนดให้แก่นามธรรมและรูปธรรมที่จะจะแสดงผลต่อชีวิต ทั้งร่างกายและจิตใจของเรานั่นเอง โดยย่อๆ หน้าที่ของธาตุ ในกรอบธรรมชาติทั้งสี่ที่เราจะจำได้ง่ายหน่อย ก็คือ เอกภพ คือ วัตถุดิบ(ปรัชญาธาตุพื้นฐาน) จักรราศี คือ รูปแบบ โลก คือ ลักษณะแสดงออก และ ลัคนา & เรือน คือ ความสัมพันธ์ (หน้าที่) หลักจำนี้ เมื่อเรานำมาใช้เพื่ออ่านดวงชะตา ก็จะไม่สับสน

การดูดวงชะตาแบบไทย เราจึงมักจะมองจากกรอบภายนอกเข้ามาสู่ภายใน ธาตุเดิมที่เคยเป็นนามธรรมในจักรวาลใหญ่ จึงเปลี่ยนแปลงไปมากสำหรับการใช้อ่านทั่วไปในโหราศาสตร์ ธาตุที่เข้ามาสู่โลกแล้ว และอยู่ในดวงชะตา ถือเป็น ธาตุดาว อย่างเช่น อาทิตย์ ที่เป็นการรวมตัวแล้วพุ่งขึ้นสูง จักรราศี คือรูปแบบที่สูง มีอย่างเดียว หรือ มีน้อย โลกมองเห็นลักษณะเป็นจุดเด่น เป็นเอก ของที่มีค่า มีราคา เป็นศูนย์รวม เช่นหัวหน้า พระราชา อัญมณี หรือเป็นประเภทสัตว์ปีก เพราะบินสูง ก็คือ ครุฑ นก ไก่ หลายชาติจึงเอาครุฑมาเป็นสัญลักษณ์แทนอาทิตย์หรือ พระราชา เมื่อใดเข้ามาสู่ดวงชะตา เช่นเป็นกัมมะ ก็เป็นงานราชการ (เกี่ยวกับพระราชา) ดังนี้เป็นต้น

เราลองดูธาตุดาวอื่นโดยไม่บอกกรอบธรรมชาติแล้วลองคิดดู จันทร์ ทำสิ่งเดียวเป็นหลายสิ่ง จึงเป็นของที่มีจำนวนมาก แพร่หลายไปทั่ว พวกของเหลว เช่น ประชาชน(มีเยอะ) เงินธนบัตร (แพร่ไป) น้ำประปา (ใช้ทั่ว) บริการประชาชน (เช่น หมอ พยาบาล) อาหาร ขนม บ้านเรือน ที่ดิน (พันธุโลก) แบคทีเรีย นัยน์ตา กำไร (ส่วนเพิ่ม) ฯลฯ

อังคาร รับพลังงานเข้าแล้วถ่ายพลังงานออก เป็นพวกกลไก เครื่องจักร รถยนต์ สปริง เหล็ก นักกีฬา ทหาร อาวุธ สมอง เขียนไปมากแล้ว พุธ ส่งผ่าน คือ สื่อสาร พูด เขียน เรียนหนังสือ ธุรกิจ ค้นคว้า เล่นการเมือง (สืบทอดอำนาจ) คิด น้ำ ของเหลว ของไหล หนังสือพิมพ์ อินเตอร์เน็ท เครื่องคอมพ์ เครื่องคิดเลข พฤหัส ขยายออก หรือ แผ่ไกลออกไป คือ การพัฒนา ความก้าวหน้า เพิ่มขึ้น ต่างประเทศ (แผ่ไปไกล) ผ้า กระดาษ (แผ่ออกทางแบน) ภาชนะหีบห่อ (ห่อของ) แก้วเลนส์ (ขยายแสง) แก้วน้ำ (ภาชนะ) กล้องโทรทัศน์ กล้องดูดาว ปัญญา วิจัย(ขยายความคิด) เสื่อ (ประโยชน์)

ศุกร์ สอดคล้องกลมกลืน สำเร็จ เป็นพวก รูปทรงกลม หรือ โค้ง ความราบเรียบ ศิลปะ เพลง (มีทำนอง) สีสัน นางงาม (36 -22 -36) เอ็นไซม์ แอร์ (สบาย) น้ำมันหล่อลื่น กามารมณ์ แมว (ชอบคลอเคลีย) เครื่องประดับ(ของสวย) สังคม (การประกอบกัน) เสาร์ หดตัวเข้า มั่นคง เช่น พวกก่อสร้าง อิฐหินดินทราย เหล็กเส้น เส้นผม (เส้นเล็ก) เส้นเอ็น ของละเอียด (หดมาก) จู้จี้ (ละเอียด) ใจแคบ (เพราะหด) เป็นทุกข์ (บีบรัด) ช้า (มั่นคงอยู่กับที่) สมาธิ รวมศูนย์ อาฆาต (มั่นคงไม่ยอมเลิก) นักโทษ(ที่แคบ) ไสยศาสตร์ (พลังงานแฝงสูง) ราหู ยึดติด หลงใหล เช่น แม่เหล็ก การพนัน สุรา ยาเสพติด นักเลง ยาดอง มืดมัว ภาพยนตร์ ละครน้ำเน่า โฆษณา นักการเมือง ไสยศาสตร์ เสน่ห์ เล่ห์กล พิศวาส นักเล่นกล คนโกง ฯลฯ อะไรทำนองนี้แหละ หากรวบรวมเอาตามที่ตำราทุกเล่มกล่าวถึง มารวมกันไว้ ก็คงเขียนไม่ได้หมด เพราะรวมๆแล้วก็เป็นธาตุและวัตถุหมดทั้งโลกนั่นเอง

ข้อความเหล่านี้เป็นการสรุปโดยย่อๆ อย่าเคร่งครัดมากเกินไป เพราะไม่มีธาตุใดอยู่ด้วยความหมายบริสุทธิ์ได้โดยลำพัง และธาตุมักจะวิ่งผ่านระดับ(ภพ) ขึ้นลงอยู่เสมอ ความหมายอาจจะแปรเปลี่ยนปะปนกันได้ แต่เราจะใช้พิจารณาเมื่อเราจำเป็นต้องศึกษาวิเคราะห์หลัก หรือ คำทำนาย เราจะจำแนกได้ถูกระดับเท่านั้น นอกจากนั้น เมื่อนามธรรม หรือ ธาตุดาวสองชนิดขึ้นไปเข้ามีปฏิกิริยาต่อกัน ความหมายก็จะเปลี่ยนแปลงไป เช่น อังคารเข้าเจือปนกับศุกร์ ทำให้ศุกร์เปลี่ยนจากความรักบริสุทธิ์เป็นกามารมณ์ และจะรุนแรงมากขึ้นเมื่อ อาทิตย์และจันทร์เข้าร่วม ดังนั้น ธาตุที่อยู่ในธรรมชาติใดก็ตาม เมื่ออยู่ในแวดวงล้อมของนามธรรมอื่น จึงไม่มีทางแสดงคุณสมบัติทางปรัชญาของตนเองโดยบริสุทธิ์แต่เพียงลำพังได้นั่นเอง

ผู้แสดงความคิดเห็นวรกุล ( ) วันที่ลงประกาศ 28-02-2007 04:58:02

Sunday, February 25, 2007

มาตามหาวิธีการคำนวนเพื่อกำหนด วันตรุษจีน กันเถอะ

สวัสดีปีใหม่แบบคนจีนครับ ฉลองรับวันตรุษจีน พึ่งผ่านไปหมาดๆ เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2550 เริ่มต้นปีหมูไฟ อย่างแท้จริงแล้ว

ตั้งแต่เด็กจำความได้ ไม่เคยเลยที่สนใจเรื่องวันตรุษจีนมีทีมาอย่างไง สนใจอย่างเดียวคือ จะได้อังเปากับเขาบ้างหรือเปล่า แต่ 2-3 ปีมานี้ที่เรียนโหราศาสตร์ ก็เริ่มสังเกตุได้ว่า วันตรุษจีน ต้องเป็นวันเดียวกับวันอมาวสี (New Moon) เสมอ จากนั้นก็ถึงบ้างอ้อว่า ปฏิทินจีนที่ใช้กันนั้น เป็นปฏิทินทางจันทรคติ คือ นับเดือนตามวงรอบของดวงจันทร์เป็นหลัก ไม่ได้ใช้ทางสุริยคติ เหมือนทางสากล

ประกอบกับ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พี่หน่อย ได้ทำสำเนาเอกสารบทความ ของ อ.ประยูร เรื่องโหราศาสตร์ จันทรคติ มาให้ เนื้อหาบางตอน อ.ประยูร กล่าวว่า จีน มีความเชี่ยวชาญเรื่องโหราศาสตร์จันทรคติ สูง ทำให้เริ่มสนใจเรื่องปฏิทินของจีน แล้วละสิ

จากฐานข้อมูลเวปไซต์ของ Google ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการคำนวนเรื่องปฏิทินจีน หรือ วันตรุษจีน ในเวปไซต์ของคนไทยเลย มีแต่เวปไซต์ต่างประเทศเท่านั้น ที่เป็นวิชาการ กล่าวถึง กฏเกณฑ์ การคำนวนหาวันปีใหม่จีน หรือ ตรุษจีน ซึ่งจริงๆแล้วจีนไม่ได้ใช้ปฏิทินจันทรคติแบบที่ผมเข้าใจ แต่ใช้ปฏิทินแบบ Lunisolar คือผสมระหว่างจันทรคติ และสุริยคติ

กฏโดยทั่วไปของการคำนวนหาวันตรุษจีน หรือ วันปีใหม่ คือ วันอมาวสีที่ 2 หลังจากเข้าสู่ฤดูหนาว หรือ Winter Soltist แล้วทำไมต้องอมาวสีที่ 2 ด้วยละครับ ผมค่อยมาเฉลยในตอนต่อไปครับ

Tuesday, January 30, 2007

วิธีทำให้ DVD-Rom อ่านแผ่นได้ทุกแผ่น

ขออนุญาตนอกเรื่องของโหราศาสตร์ไปใช้ด้านหนึ่งของมฤตยู คือ คอมพิวเตอร์ เครื่องโน้ตบุคที่ได้รับความอนุเคราะห์มาจากลุง Bob นำมาเปิด DVD 9 บางแผ่นไม่ได้ จึงต้องหาวิธีการปรับ Setting ของเครื่องใหม่

ไม่รู้ว่าในปัจจุบันเครื่อง DVD-Rom รุ่นใหม่ๆ ยังมีปัญหาตัวนี้หรือเปล่า แต่ใครมีปัญหาก็ตามมาแก้ตามวิธีการดังต่อไปนี้ครับ

ที่มา http://www.justusers.net/knowledges/dvdnotread.htm

 

<< DVD-Rom อ่านแผ่นไม่ได้?? >>

DVD-Rom อ่านแผ่นไม่ได้ มี 2 กรณีครับที่ผมเจอ
1. เกิดจากตัวแผ่น DVD เอง (ทดลองกับเครื่องอื่นดูว่าได้ไหม)
2. เกิดจากตัว WINDOWS หากเกิดจากข้อนี้ให้แก้ไขดังต่อไปนี้ครับ


สำหรับ "Windows 95/98 และ 98SE"
1. ให้เข้าไปที่ Start Menu เลือกคำสั่ง Run
2. ให้พิมพ์คำสั่ง "msconfig"
3. ก็จะเข้าสู่ System Configuration Utility ให้เข้าไปที่แถบ Advanced
4. ให้ติ๊กเอาเครื่องหมายถูกที่ "Disable UDF File System" จากนั้นก็เลือกตกลง (OK) แล้วทำการ Restart เมื่อกลับเข้าสู่ Windows อีกครั้งก็จะสามารถเล่นแผ่นทั้งหลายที่ไม่สามารถเล่นได้แล้วครับ เห็นไหมไม่ยากเลย


สำหรับ "Windows 2000 และ XP"
1. ให้เข้าไปที่ Start Menu เลือกคำสั่ง Run
2. ให้พิมพ์คำว่า "regedit"
3. เข้าสู่โปรแกรม Registry Editor จากนั้นให้เข้าไปที่ HKEY_LOCAL_MACHINE/SYSTEM/ControlSet001/Service/Udfs และ
HKEY_LOCAL_MACHINE/SYSTEM/ControlSet002/Service/Udfs
4. ให้ทำการ Rename โดยการเปลี่ยนชื่อโฟลเดอ UDF ให้กลายเป็นชื่ออื่นซะ
5. ทำการเปลี่ยนชื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว (ตามภาพเปลี่ยนเป็น UDF1 ง่ายดีแค่เพิ่มเลขเข้าไป ) เราก็ไปเปลี่ยนชื่อใน HKEY_LOCAL_MACHINE/SYSTEM/ControlSet002/Service/Udfs กันต่อ ซึ่งก็ทำเหมือนขั้นตอนเดิม จากนั้นทำการ Restart เมื่อกลับเข้าสู่ Windows ก็สามารถเล่นแผ่นต่างๆที่หอบหิ้วมาได้แล้ว
ก็จบลงแล้วสำหรับการแก้ไข UDF ซึ่งสามารถทำได้ทุกเครื่อง ไม่ว่าจะใช้แต่ WinDVD ในการเล่นก็ตาม เพราะช่วยให้การเล่นแผ่นบางแผ่นที่มีปัญหาเล่นได้ดีขึ้น แต่ก็มีผลกระทบเช่นกันสำหรับคนที่ลงโปรแกรมสำหรับเขียนแผ่น CDRW บางโปรแกรม (ย้ำว่าบางโปรแกรม) ดังนั้นหากพบว่าหลังได้แก้ UDF ไปแล้วการเขียนแผ่น CDRW เกิดปัญหาขึ้น ก็ให้ลองกลับมายกเลิกการ Disabe UDF


เขียนโดย คุณ maddog_12 / Com-th.net

Friday, January 26, 2007

ภาระกิจตอบกระทู้ดูดวงที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ

ข้อมูลจาก Statcounter หรือ Extreme Tracking บ่งชี้บางอย่างว่า จำนวนคนที่เข้ามาที่เวปโหรายูเรเนียน เริ่มลดลงแม้ว่าจะมีเจ้าประจำที่เข้าประจำอยู่ประมาณ 50 คน แต่ว่าคนใหม่ๆ หรือว่าขาจรเข้ามาน้อยลง เป็นไปได้ว่าด้วยเนื้อหาของเวปไซต์เองที่ยังไม่สามารถจูงใจรายใหม่ๆ ก็เป็นเรื่องที่ต้องปรับปรุงกันต่อไป

แต่อย่างหนึ่งที่เห็นชัดเจนคือ บุคลิกของคนที่เข้ามาขอดูดวงฟรี เริ่มจะมีคุณวุฒิ และวัยวุฒิเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จากเด็กนักศึกษา นักศึกษาจบใหม่ นักศึกษาปริญญาโท คนทำงานระดับกลาง และล่าสุดระดับเจ้าของกิจการ

จากที่เคยดูดวงแบบง่ายๆ ก็ต้องเริ่มดูแบบซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ จนครั้งหนึ่งการเขียนภาษาโหราศาสตร์ก็สร้างปัญหาให้กับคนมาดูดวงจนได้ เพราะเขาเห็นดาวร้ายๆ เช่น เสาร์ กับ ศุกร์ อยู่ด้วยกัน แล้วทำไมเรายังทายเป็นเรื่องดีๆ ได้อีกละ งง ละสิ

ผมเชื่อว่า อย่าว่าแต่คนทั่วไป อ่านภาษาโหราศาสตร์ แบบที่ดูซับซ้อนในกระทู้หลังๆนี้ แล้วงงเลย พวกนักศึกษาโหราศาสตร์เบื้องต้นมาอ่านก็ยังอาจจะงงได้เลย

มาลองดูกันดีกว่า

"ดวงทินวรรษ เมอริเดียน = ศุกร์ = โพไซดอน, ศุกร์ กุม เสาร์ ราศีสิงห์ และ จันทร์ กุม ลัคนา แอดแมสตอส ในเรือนที่ 1"

แปลได้ว่า

"จากทินวรรษปีนี้ถือได้ว่าเป็นปีที่มีความสุขครับ แต่อาจจะมีบ้างที่ต้องอยู่ห่างๆ กัน หรืออาจไม่ค่อยได้เจอกัน แต่คุณทั้งสองก็คงจะเข้าใจสถานการณ์ดีอยู่แล้วซึ่งกันและกันดี"

ใครที่มองภาพเป็นส่วนๆ ก็ต้องบอกว่า อ้าวพี่ ศุกร์ กุม เสาร์ แปลว่า อกหัก รักคุด แถม จันทร์ กุม แอดแมสตอส อีก ไม่ต้องเลิกกันเลยหรอท่าน

ปรากฏว่าเรื่องจริง คือ เจ้าชะตาก็งง เดือนร้อนต้องวิ่งไปถามผู้รู้ และผู้ไม่รู้ทั้งหลายว่า ทำไมหมอดูแปลอย่างงี้ละ งง ทายเอาใจหรือเปล่า หรือเบี่ยงประเด็น

สุดท้ายก็ต้องไปตอบ ไขข้อสงสัย และสอนโหราศาสตร์เล็กน้อยว่า

+++++++

หากจะให้แปล ศุกร์ = เสาร์ ควรต้องบอกว่าเป็นความรักที่มีข้อจำกัด ส่วน เมอริเดียน = ศุกร์ ตัวคุณเองมีความสุข นิครับ ดังนั้นจะบอกว่า ศุกร์ = เสาร์ แล้วไม่มีความสุขได้อย่างไร

เสาร์แปลว่าระยะทางไกล ระยะยาว ความนาน ก็ได้

คราวนี้ โพไซดอน แปลว่า ปัญญา ปรัชญา การรู้แจ้ง ดังนั้น ศุกร์ = โพไซดอล แปลว่า ความรักที่ใช้ปัญญา หรือความรักที่บริสุทธิ์ หรืออาจจะแปลว่า ศาสนา ก็ได้

หากมองไปอีกว่า เมอริเดียน = ศุกร์ = โพไซดอน ก็อาจจะแปลได้ว่า ความรักของเจ้าชะตา เป็นความรักอันบริสุทธิ ใช้ปัญญา และสติ ในเรื่องของความรัก

แอดแมสตอส = ข้อจำกัดอันใหญ่หลวง การพลัดพลาก ความลึกซึ้ง, จันทร์ = ผู้หญิง แม่ บ้าน ครอบครัว ,ลัคนา = สิ่งแวดล้อม คนคุ้นเคย

ลัคนา จันทร์ และแอตแมสตอส อยู่เรือนที่ 1 จึงแปลได้ว่า เจ้าชะตาอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีข้อจำกัด หรือพลัดพลากจากผู้หญิง

ศุกร์ ก็ยังสามารถแปลได้ว่า หญิงสาว เสาร์ แปลว่า พลัดพลาก

ซึ่งก็สอดคล้องกัน ผมจึงบอกว่า คงไม่ได้อยู่ด้วยกันเท่าไรนัก อาจจะไม่ค่อยได้เจอ หรือว่าอยู่ห่างๆกัน

+++++++

แต่แปลกใจที่สุด คือ เมื่อตอบและอธิบาย ภาษาโหราศาสตร์ ไปแล้ว ทำไมหน่อ จึงไม่มีใคร หรือนักศึกษาโหราศาสตร์คนใดไปแสดงความคิดเห็นต่อในกระทู้นั้นอีกเลย ยกเว้น อาจารย์โหร ผู้ซึ่งเป็นทีมงานประจำเวปไซต์ เท่านั้น

งงๆ ไม่เข้าใจ หรือว่า เอ.... มันจะยากเกินไปหน่อย

ที่มา : กระทู้ข้อสงสัยดวงแบบยูเรเนี่ยน และ กระทู้ดูดวงฟรีชีวิตในปี2550นี้เป็นอย่างไรบ้างครับ

Thursday, January 18, 2007

คำพยากรณ์ตามราศี สำหรับ 19 ม.ค. - 17 ก.พ. 50 ออกแล้วคร้าบ

ในที่สุดก็สามารถปั่นบทความคำพยากรณ์รายเดือน ตามราศี สำหรับเวปไซต์ www.horauranian.com เสร็จทันเวลาเช่นเคย ติดตามอ่านได้ที่ คอลัมน์ทำนายทายทัก ได้เลยครับ


ระหว่างนั่งพยากรณ์ในแต่ละราศี ในดวงอมาวสี (New Moon) เดือนนี้เห็น ศุกร์ ทับ เนปจูน ดังนั้นเรื่องเกี่ยวกับการเงินทั้งหลายจะมีลักษณะการปิดปัง ซ่อนเร้น หรือ อาจมีข่าวอือฉาว เกี่ยวกับดารา หรือศิลปิน ให้ฮื่อฮาอีกครั้ง แต่ในประเทศไทย ศุกร์และเนปจูน อยู่ในเรือนที่ 11 (รัฐสภา) แสดงว่า ประเทศไทยน่าจะมีการออกกฏหมาย ที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน หรือป้องกันการโจมตีค่าเงินบาท หรืออาจหมายถึงกฏหมายเกี่ยวข้องสื่อสาร ก็คงได้ ( เนปจูน+ ราศีกุมภ์ = เทคโนโลยีที่ไร้สาย = มือถือ?)


อื่มๆ ทำไมหน่อ อ่านดวงรายราศี ดันไปออกเรื่องโหราศาสตร์การเมือง ที่สำคัญเราเคยแซว อาจาร์ย วิโรจน์ กรดนิยมชัย ตอนท่านสอนโหราศาสตร์ ว่าอาจารย์อ่านดวงคน ทำไมไปออกการเมืองละครับ :) สงสัยกรรมจะตามสนอง ติดนิสัยอาจารย์มาซะแล้วเรา


ลืมโม้ไปว่า สร้าง template สำหรับช่วยในการพยากรณ์แต่ละราศีเสร็จแล้ว สามารถลดขั้นตอน และเวลาในการดูดวงได้มากจริงๆ ไม่ต้องมานั่งเขียนดาว กับเรือนชะตาที่ละราศี ใช้วิธีกรอกบน Excel เสร็จ Print ออกมาเลย อ่านและพยากรณ์อย่างเดียว แต่ที่ยากของจริง คือ การพยากรณ์มากกว่า


เริ่มแกะรอยคำพยากรณ์รายไตรมาส ของ อ. วิโรจน์ กรดนิยมชัย ได้มากขึ้นแล้ว ดีใจจัง


พอเริ่มแกะออก ก็จริงเหมือนกับที่พี่ตู่ (อ. กามล แสงวงศ์) เคยบอกไว้ว่า "อ.วิโรจน์ ไม่ใช้อะไรซับซ้อนมากมายเหมือนที่ลัทคิดหรอก ท่านใช้หลักการง่ายๆ แปลง่ายๆ ตามปรัชญาดาว และเรือนชะตา"


เอาน่ามาได้ที่ละนิด เราก็ดีใจแล้ว

Tuesday, January 16, 2007

ปรัชญาของดาว จาก www.horathai.com ตอน 2

อ.วรกุล ท่านโพสในเวปบอร์ดของ www.horathai.com น่าสนใจมาก แม้ว่าจะเป็นกระทู้ "คุยกันสบายๆ..........ตามประสาโหราศาสตร์ไทย ( 21)" แต่อ่านแล้วอย่างไงก็สามารถใช้ในโหราศาสตร์สากลได้อย่างแน่นอน

+++++++++++++++++++++++++

อ.วรกุล :

ธาตุที่สำคัญอย่างต่อมา คือ อาทิตย์ ซึ่งมีธรรมชาติรวมศูนย์ลงเป็นหนึ่งเดียว อาทิตย์นั้นต่างจากเสาร์ แต่ลักษณะคล้ายกันคือ รวบรวมเอาทั้งสิ่งที่แตกต่างหรือ เหมือนกันก็ตามรวมเข้าหาเป็นหนึ่งเดียวเสมอ ดังนั้น อาทิตย์จึงมีพลังงานสูงมาก และกลายเป็นสิ่งที่เป็นเอกอันเดียว เราจึงมักทำนายอาทิตย์ว่าเป็นเอก เป็นใหญ่ เป็นเลิศ เป็นหัวหน้า เป็นอำนาจ และเป็นศูนย์กลางของชนหมู่มากเช่น พระราชา นอกจากนั้น อาทิตย์ยังเป็นที่มาของ “ชีวิต” และยังหล่อเลี้ยงชีวิตด้วย นักโหราศาสตร์และไสยศาสตร์ จึงถือว่าอาทิตย์คือผู้ให้ชีวิต บางศาสนาที่สร้างอวัยวะเพศชาย หมายถึง อาทิตย์ เป็นรูปเคารพ จึงหมายถึง ผู้ที่สร้างชีวิต หรือ รวบรวมสรรพสิ่งไว้ในชีวิต ไม่ใช่เครื่องหมายทางเพศและกามารมณ์

ธาตุที่เป็นคู่ตรงกันข้ามก็คือ จันทร์ เนื่องจากจันทร์ทำสิ่งเดียวให้กลายเป็นหลายอย่าง ยิ่งธาตุจันทร์อยู่นานเท่าไร จำนวนก็จะเพิ่มปริมาณขึ้น เราจึงมักทำนายจันทร์ว่าเป็นประชาชน หรือ คนหมู่มาก ปลาฝูงใหญ่ๆ หรือสิ่งที่เป็นปริมาณมาก เช่น สายน้ำ แม่น้ำลำคลอง ที่น้ำแต่ละหยดไหลมารวมกัน หากจันทร์เป็นทรัพย์สมบัติก็จะทวีคูณขึ้นอย่างมีปริมาณและคุณภาพ จันทร์ จึงมีลักษณะขยายตัวกว้างออกไป เหมือนอารมณ์และจิตใจที่ไม่มีขอบเขตลิมิต การที่จันทร์เพิ่มจำนวนสรรพสิ่งได้นี่เอง นักปรัชญาและศาสนาโบราณจึงถือจันทร์เป็น “มารดา” และอวัยวะเพศสตรี หรือ สตรีเอง ในความหมายว่าเป็นผู้แพร่พันธ์ ความหมายนี่ยังติดมาแรงในดวงโลกด้วย

อยากให้สังเกตตรงนี้ว่า ลักษณาการตามธรรมชาติการหดตัวรวมศูนย์ ของ อาทิตย์ กับเสาร์ และการขยายตัวออกของ จันทร์ กับ พฤหัส นั้นเป็นลักษณะคล้ายกัน เหมือนกับที่มันทำงานเป็นคู่ธาตุ ในมหาทักษา แต่นี่ยังอยู่ในกรอบของจักรวาลใหญ่อยู่

ธาตุอีกธาตุหนึ่งที่จะกล่าวถึง คือ อังคาร ซึ่งมีธรรมชาติดูดซับเอาพลังงานเอาไว้แล้วปลดปล่อยออกไป เพราะคุณสมบัติข้อนี้จึงทำให้อังคารเป็นธาตุที่เป็น “ตัวทำงาน” ที่สำคัญ ทั้งในดวงเดิมและดวงจร โดยปกติ อังคารนั้นไม่สามารถสร้างพลังเอง แต่ตัวมันจะสะสมพลังงานเอาไว้ทีละเล็กทีละน้อยได้มาจากธรรมชาติรอบตัวและธาตุอื่นๆที่มาสัมพันธ์กับมัน ดังนั้น เมื่อมันมีจังหวะปลดปล่อยออกไปก็จะมีกำลังเหมือนพลังในตัวเอง เรามักพบอังคารในที่ๆยืดหยุ่นได้ เนื่องจากสิ่งเหล่านี้จะมีการสะสมและคายพลังงานออกมาได้เกือบเท่ากัน เช่น เหล็กหรือ โลหะก็จะมีความยืดหดอยู่น้อยๆ นักกีฬาทั้งหลายก็มีพลังงานในกล้ามเนื้อที่สะสมไว้ทั้งจากสารอาหาร และการยืดดึงเหนียวแน่นของเส้นเอ็นที่เกิดจากการฝึกฝนสะสมเอาไว้เป็นเวลานาน อังคารเองจึงไม่ชอบธาตุศุภเคราะห์ที่มักขยายตัว และยังไม่ชอบเสาร์ เพราะความแข็งเกินไปทำให้มันเสียความยืดหยุ่น กลายเป็นเปราะและแตกหักได้

ธาตุพื้นฐานของธรรมชาติที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ ศุกร์ ศุกร์คือ ความสอดคล้องกลมกลืน และความสำเร็จ เมื่อใดธาตุที่ทำงานอยู่มีธาตุศุกร์อยู่ด้วย จะมีความสอดคล้องกลมกลืนกันได้ ดังนั้น ศุกร์จึงเป็นสิ่งจำเป็นในการสร้างสุริยจักรวาลและสรรพสิ่งที่จะรวมกันโดยไม่แตกทำลายไปเสียก่อน เพราะศุกร์นี่เองที่ทำให้เกิดจังหวะของธาตุที่รูปธรรมสอดคล้องตรงกัน ที่ก่อร่างสร้างขึ้นจากนามธรรม เราจึงพบศุกร์ในพวกดนตรี และศิลปะ ความรัก ความงาม และความสมส่วน เนื่องจากการสอดคล้องกลมกลืนนั้น เป็นความสำเร็จขั้นสุดท้าย จากความแปรปรวนรวนเร เราจึงแปลนามธรรมของศุกร์ว่าเป็น “ความสำเร็จ” ซึ่งหยุดนิ่งสงบด้วยฉันทะความพึงพอใจในธรรม ต่างจากนามธรรมอื่น เช่น พฤหัส จันทร์ พุธ อาทิตย์ เป็นต้น เพราะพวกนี้จะพัฒนาไม่หยุด

ธาตุตัวถัดไปคือ พุธ พุธคือ การส่งผ่าน เคลื่อนที่ หากขาดฟังชั่นนี้ ก็จะทำให้ธาตุทั้งหลายตลอดจนพลังงาน ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างเป็นระเบียบ พูธช่วยให้เกิดการลำเลียงของธาตุ การหดตัวและการขยายตัวของธาตุ ล้วนเป็นไปอย่างเป็นระเบียบสัมฤทธิผล ไม่มีอุปสรรค เราจึงเห็นพุธในพวกคลื่น การแพร่หลาย การส่งผ่าน คำพูดและภาษา รวมทั้ง การเรียนรู้ต่างๆ จะเห็นว่า พุธจะคล้ายพฤหัสในแง่การขยายตัวออกไป แต่พูธนั้นเป็นการขยายแพร่เคลื่อนย้ายจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง พุธเพิ่มปริมาณเหมือนจันทร์ ทำให้เป็นคู่มิตรแก่กันได้ดี พุธจูนคลื่นของสรรพสิ่งให้ตรงกันด้วยวิธีเคลื่อนย้ายไปสู่สมดุล มันจึงทำงานคล้ายกับศุกร์ คู่ธาตุของมัน

ธาตุตัวพื้นฐานสุดท้าย คือ ราหู ราหูของจักรวาลใหญ่ไม่ใช่คราส หรือ เงาของโลก แต่เป็นความยึดติดตรึงเหนียวแน่น ทำให้เราเรียกราหูว่า อวิชชา ที่ยึดเอาสิ่งต่างๆมาเป็นอัตตา เพราะราหูมักจะยึดเหนี่ยวสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่เสมอ ขาดไม่ได้ ราหูจึงมีประโยชน์ให้ธาตุยึดติดคุมตัวกันอยู่ได้นาน เช่นธาตุของเสาร์ที่หดตัวรัดแน่น หากมีราหูช่วยยึดติดไว้ก็จะแข็งแรงให้คุณมาก ราหูจึงเป็นภัยศัตรูใหญ่ของพฤหัส จันทร์ และพุธ เพราะการยึดเหนี่ยวของราหูทำให้ธาตุขยายตัวแพร่ไปได้ยาก ราหูทำให้จังหวะของศุกร์สะดุด และอาทิตย์รวมลงไม่ได้สนิท ราหูกับอังคารไปกันได้เพราะอังคารเหนียวแน่นดี ราหูยึดไว้ไม่ให้หลุด แต่ก็ทำให้อังคารเสียความยืดหยุ่นไปได้ด้วย เราจึงมักพบราหูในพวกสิ่งเสพติดและอบายมุข ราหูจึงเป็นศัตรูแรงกับธาตุศุภเคราะห์ทุกอย่าง เพราะมันเหนี่ยวรั้งไม่ให้เกิดการขยายตัวหรือเคลื่อนที่ออกไป

ขอย้ำว่า ธาตุพื้นฐานเหล่านี้ ยังเป็นของธรรมชาติโดยส่วนรวมที่ยังไม่ได้เข้าไปเกี่ยวกับสุริยจักรวาล และโลกเลย เมื่อธาตุเหล่านี้ทำงานอยู่ในจักรวาลและโลก จะถูกคุณสมบัติของระบบทำให้คุณสมบัติทางนามธรรมของมันแปรเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่นได้ ธาตุเหล่านี้เป็นนามธรรมที่ทำงานตามธรรมชาติของมัน จึงอาจจะเสริมกับธาตุอื่น หรือ ขัดแย้งกันก็ได้ไปจนกว่าจะไปสู่สมดุล ปฏิกริยาระหว่างธาตุทั้งหลายนี่แหละเป็นสิ่งที่แปรเปลี่ยนมาเป็นคำทำนายจำนวนมากในโหราศาสตร์

ปรัชญาของดาว จาก www.horathai.com ตอน 1

อ.วรกุล ท่านโพสในเวปบอร์ดของ www.horathai.com น่าสนใจมาก แม้ว่าจะเป็นกระทู้ "คุยกันสบายๆ..........ตามประสาโหราศาสตร์ไทย ( 21)" แต่อ่านแล้วอย่างไงก็สามารถใช้ในโหราศาสตร์สากลได้อย่างแน่นอน

+++++++++++++++++++++++++

อ.วรกุล :

ในตอนก่อนหน้านี้ได้กล่าวถึงระบบธรรมชาติทั้งสี่ที่มีผลต่อโหราศาสตร์ไทย ได้แก่ หนึ่ง จักรวาลใหญ่ทั้งหมด (หรือ เอกภพ) สอง สุริยจักรวาล สาม โลกของเรา สี่ โลกส่วนตัวของเรา มาแล้ว โหราศาสตร์เชื่อว่าทั่วทั้งจักรวาลล้วนแต่มีความเปลี่ยนแปลงที่เป็นไปในทางเดียวกันพร้อมกัน ธาตุทุกอย่างที่เป็นองคประกอบของธรรมชาติรอบตัวเรา รวมทั้งตัวเราด้วยนั้น ประกอบไปด้วยรูปธรรม และ นามธรรม ที่สามารถถ่ายเทสื่อสารได้และก็เปลี่ยนแปลงไปตามจักรวาลในส่วนรวม

โหราศาสตร์นั้นมีที่มาของการศึกษานามธรรมเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นความหมายของดาว หรือ ราศี ล้วนแปลจากความหมายที่เป็น “ปรัชญา” ซึ่งแม้จะใช้คำไม่ถูกต้อง แต่ก็ยังไม่มีคำอื่นที่ดีกว่า ความหมายทางปรัชญาของธาตุในเอกภพที่เป็นส่วนรวมนี่เองซึ่งเราใช้กันในโหราศาสตร์และดวงชะตา ถือว่าเป็นสิ่งที่สามารถเปลี่ยนไปได้หลายรูปทั้งนามธรรมและรูปธรรม ขณะที่ธาตุเป็นรูปธรรม มันจะเป็นไปตามกฎทางวิทยาศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นฟิสิกส์ เคมี หรือ กฎทางสสารและพลังงาน แต่ขณะที่มันเป็นนามธรรมนั้น เรากลับไม่เห็นกฎเกณฑ์ทางวิทยาศาสตร์ที่อธิบายมันได้ นอกจากการศึกษาพฤติกรรมทางจิตวิทยาเท่านั้น ทำให้ความรู้เรื่องของธาตุในทางนามธรรมและจิตใจก็ตาม ไปปรากฏในคัมภีร์ทางปรัชญา ศาสนา และศาสตร์วิชาลึกลับต่างๆ เช่น ไสยศาสตร์และโหราศาสตร์ เป็นต้น

พวกเราเองอาจจะไม่ทราบ หรือ ไม่ทันคิดว่า ความจริงแล้วความหมายทางปรัชญาของธาตุที่เราเรียนทางโหราศาสตร์นั้น แท้ที่จริงมาจากปรัชญาโบราณ เพราะการที่สสารสามารถเปลี่ยนข้ามสถานะจากนามธรรมและรูปธรรม ซึ่งสามารถแสดงผลต่อสัญชานความรู้สึกได้นั้น เป็นพื้นฐานหลักวิชาต่างๆในปรัชญาโบราณมาแต่เดิม โดยทั่วไปนามธรรมของจักรวาลมีอยู่มากมาย แต่โหราศาสตร์เองศึกษาเพียงนามธรรมและรูปธรรมที่มีผลต่อชีวิตมนุษย์เท่านั้น ชีวิตมนุษย์นั้น เกิดจากจังหวะวงรอบธรรมชาติที่สอดคล้องกับการสร้างร่างกายและชีวิตของมนุษย์ขึ้นมาโดยตรง ซึ่งเป็นเพียงส่วนน้อย แต่บางท่านกลับไปเห็นว่านี่เองเป็นทั้งหมดของโหราศาสตร์แล้ว ดังนั้น จึงเชื่อกันนั่นคือสัจธรรม ที่เป็นบิดามารดาของโหราศาสตร์ทุกระบบในโลก ทั้งๆที่โดยข้อเท็จจริงสิ่งเหล่านี้เป็นเพียงความรู้ที่นักปรัชญาไสยศาสตร์ตะวันออกทราบกันอยู่นานแล้วในระบบความรู้อื่น

จักรวาลใหญ่ หรือ เอกภพนี้มีความเป็นอยู่โดยไม่มีผู้สร้างอื่น นอกจากมันสร้างผู้สร้างและผู้ทำลายขึ้นมาเอง จนดูเหมือนเป็นจักรกลที่มีชีวิต และกลไกของการดำรงอยู่ด้วยตนเองเป็นเวลานานนับกัลป์ หรือ ยาวนานนับไม่ได้นี่เอง ทำให้นามธรรมบางส่วน “มีอำนาจ” ในการทำหน้าที่ควบคุมตนเองและจักรวาลโดยส่วนรวมได้ ทั้งๆที่องค์เหล่านี้มีที่มาจากนามธรรมที่เป็นเพียงจักรกลไม่มี “ชีวิต” (ในความหมายของเรา) หรือ เป็นเพียงธรรมชาติเท่านั้นเอง นี่จึงเป็นที่มาของความหมายคำว่า “เทวดาเสวยอายุ” ที่นำมาใช้ในโหราศาสตร์ไทย “เทวดา” หรือ ธาตุในมหาทักษา จึงไม่ใช่เทวดาในความเชื่อตามวัฒนธรรมว่าเป็นเพียงวิญญาณของผู้ทำดีแล้วได้ขึ้นสวรรค์ แต่เป็นธรรมชาติ หรือ นามธรรม ที่แฝงอยู่ในตัวเราทุกอณูของร่างกายและจิตใจนั่นเอง

สิ่งที่จักรวาลใช้เป็นเครื่องมือควบคุมตนเองในระดับที่สูงกว่ากฎเกณฑ์ทางฟิสิกส์ โดยคร่าวๆ มีอยุ่ไม่กี่อย่างที่เราเรียกว่า ธาตุ หมายถึง ธรรมที่เป็นชิ้นส่วนของธรรมชาติ หรือ Elements of Nature ที่กร่อนลงมาเป็น Element หรือ “ธาตุ” ในความหมายทางฟิสิกส์แต่เพียงอย่างเดียว แต่โหราศาสตร์ยังคงให้ความหมายของ “ธาตุ” ทั้งในทางรูปธรรมและนามธรรมตามอย่างแนวคิดโบราณเช่นเดิม ดังนั้น เมื่อเราต้องการที่จะเข้าใจโหราศาสตร์และข้อความในตำรา เราก็ต้องเข้าใจความหมายเครื่องมือพื้นฐานของธรรมชาติ ในกรอบของจักรวาลใหญ่ หรือ เอกภพ เสียก่อน

ก่อนอื่น เราต้องเข้าใจว่า “ธาตุ” นั้นมีมาก่อนดาวเคราะห์ ถึงแม้ไม่มีดวงอาทิตย์และดาวเคราะห์ในจักรวาลเลยแม้แต่ดวงเดียว “ธาตุ” หรือ “ธรรม” นี้ก็มีอยู่ก่อนนานแล้วเป็นเวลานานนับกาลเวลาไม่ได้ โดยทั่วไปเมื่อ “ธรรม” เหล่านี้ดำรงอยู่ในจักรวาล มันจะอยู่ในสภาพของนามธรรม ต่อเมื่อมีเงื่อนไขและจังหวะธรรมชาติที่เหมาะสม นามธรรมแต่ละประเภทก็จะกลายเป็นรูปธรรมได้ นามธรรมเหล่านี้ไม่มีชื่อ แต่การบัญญัติชื่อนั้นบัญญัติตามหลังรูปธรรมที่เราพบเห็นและตั้งชื่อแล้ว เช่น ดาวเคราะห์ ซึ่งหากย้อนกลับไปดู เราจะกลับพบว่าชื่อดาวเคราะห์นั่นเองที่มักบัญญัติตามนามของเทพเทวดาในเทววิทยาของอารยธรรมโบราณ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ชื่อเหล่านี้มีที่มาจากนามธรรมมาก่อน แต่เพราะความไม่เข้าใจเรื่องนี้ จึงทำให้คนรุ่นหลังอย่างเราเข้าใจผิดคิดว่า ดาวเคราะห์นั้นเองเป็นบ่อเกิดที่มาของนามธรรมชื่อเดียวกัน

สิ่งที่สำคัญควรจะต้องทราบมีอยู่ว่า นามธรรมนั้นมีอยู่มากมายทั่วจักรวาลหรือเอกภพนี้จนอาจจะนับไม่ได้ ที่เราเอามาศึกษาหรือใช้ในโหราศาสตร์เป็นเพียงส่วนน้อยนิดเดียวเท่านั้น เพียง 7 – 8 อย่าง เหมือนอย่างช่างไม้ที่มีเครื่องมืออุปกรณ์มากมาย แต่มีเพียงไม่กี่อย่างที่นำมาพกติดตัว ดังนั้น นามธรรมที่เราเอามาใช้นั้น จึงจำเป็นต้องตีความหมายอื่นๆที่พอใกล้เคียงอนุโลมรวมเข้าในชื่อธาตุหนึ่งๆ ทำให้ความหมายธาตุมันกว้างขวางออกไป การที่เรานำนามธรรมมาใช้ได้น้อยก็เพราะว่า นามธรรมจำนวนมากไม่ได้มีจังหวะธาตุประจวบเหมาะพอที่จะสอดคล้องกับธรรมชาติของสุริยจักรวาลและโลกที่เราอยู่ จึงกลายเป็นธาตุแฝง ส่วนที่แสดงเด่นมีเป็นส่วนน้อย

ธาตุแต่ละชนิดในเอกภพจะมีธรรมชาติไม่เหมือนกัน ธาตุที่สำคัญอันดับแรก ก็คือ พฤหัส พฤหัสมีธรรมชาติที่ขยายตัวออกไป ดังนั้น เราจึงมักทำนายพฤหัสว่าหมายถึง ความเจริญ แต่การตีความเช่นนี้ไม่ถูกต้องเพราะเป็นการลำเอียงไปในทางดีและน่าพอใจ เนื่องจากธาตุที่เป็นเครื่องมือพื้นฐานของธรรมชาตินั้นเป็นกลาง เหมือนอย่างมีดพร้า ที่อาจจะเป็นโทษหรือเป็นประโยชน์ได้ทั้งสองทางสุดแต่นำมันมาใช้ทางใด ดังนั้น หากพฤหัสเข้าร่วมพัฒนาในสิ่งไม่ดี เช่น โรคภัย เนื้องอก ความหยิ่ง ความโลภ หรือ ความเลว ก็จะขยายตัวกลายเป็นโทษและมีความไม่ดีตามสิ่งนั้นๆไปด้วย นี่เป็นอุทาหรณ์ในการพิจารณาธาตุทุกอย่าง จะต้องพิจารณา “หน้าที่” ตามธรรมชาติของธาตุมากกว่าจะจดจำที่ภาพลักษณ์ ที่ทำให้เกิดความลำเอียงในการพิจารณาทั้งดาวเดิมและดาวจร และการทำนายนั้นต้องมีเหตุผลของมันตามธรรมชาติ ไม่ใช่การทำนายแบบสำเร็จรูป

ธาตุที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ เสาร์ เสาร์มีธรรมชาติที่ลดขนาดบีบตัวควบแน่นมั่นคง แต่ก็เป็นกลางๆในฐานะเครื่องมือพื้นฐานในธรรมชาติ การที่เสาร์บีบตัวลงนั้น ทำให้เกิดความมั่นคงได้ เพราะอะไรที่มัดรัดแน่นไม่กลวงเป็นโพรง ก็จะมีความแข็งแกร่ง ทนทาน ตามไปด้วย แต่การที่เสาร์จะให้โทษ หรือ ให้คุณก็เกิดจากการทำหน้าที่ของมันในแต่ละสถานการณ์เช่นกัน เช่น หากเสาร์เป็นธาตุที่เจือปนอยู่ในโครงสร้างที่ต้องรับภาระ (load) เช่น สิ่งก่อสร้าง ก็จะทำให้อยู่คงทนได้ เสาร์มักจะให้ความแข็งแกร่งเพราะคุณสมบัติของมันข้อนี้ ทำให้ผู้ที่มีเสาร์เด่นดีจะมีความอดทน สิ่งที่ได้คุณจากเสาร์ก็จะมั่นคงไม่ผันแปรง่าย แต่เสาร์ก็สามารถให้โทษได้ในที่ๆซึ่งไม่ต้องการให้มั่นคงอยู่กับที่ เช่น ติดคุกตะราง ยศตำแหน่งความก้าวหน้า หรือ งานที่ต้องการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนั่นเอง

เสาร์ มักจะให้โทษทุกข์แก่พวกนามธรรมเช่นพวกจินตนาการ จิตใจ ศิลปะ หรือ ดนตรี เช่น จันทร์ หรือ ศุกร์ จึงเป็นสิ่งที่ฝืนกันเหมือนศัตรูตามธรรมชาติ เพราะนามธรรมที่เกิดจากจิตใจอารมณ์ความรู้สึกนั้น มีธรรมชาติต้องการความฟุ้งไปไม่อยู่นิ่งกับที่ หากมีอิทธิพลของเสาร์เจือปนอยู่ก็จะเกิดการบีบรัด ฝืนความต้องการของจิตใจ จนกลายเป็นนิสัยเจ้าทุกข์ แต่ทางกลับกัน หากจิตใจที่ต้องการสงบ สมาธิ รวมลงเป็นหนึ่ง จึงใช้จะประโยชน์จากเสาร์ได้ดีมาก หากมีปัญญาความเพียรดี มักจะเป็นผู้ทำภาวนาได้ผลดีในทางสมาธิวิปัสสนา จิตไม่ฟุ้งกระจายแส่ส่าย เพราะเสาร์นั่นเองควบคุมธาตุของใจและอารมณ์ให้รวมลงได้แข็งแกร่งและมีกำลังมาก

ธรรมชาติของ พฤหัส และ เสาร์นี้ จึงเป็นเครื่องมือใหญ่ในการควบคุมธรรมชาติเอง โบราณจึงถือเป็นประธานศุภเคราะห์และประธานบาปเคราะห์ เมื่อมีการขยายตัวแล้วก็บีบกลับเล็กลงแล้วขยายใหม่ ธรรมชาติโดยรอบจะเกิดขัดแย้งปั่นป่วนจากการขยายและหดตัวของธาตุทั้งสองซึ่งกินเวลายาวนาน จนถึงกับถือว่าเป็นยุคหนึ่งๆ ทั้งพฤหัส และเสาร์เป็นธาตุที่มีอยู่ในทุกสิ่งในธรรมชาติ จึงเป็นสิ่งที่ควบคุมธรรมชาติในทุกอณูของสรรพสิ่งด้วย เหตุที่กำหนดให้มันเป็นประธานของพระเคราะห์ เพราะมีนามธรรมที่แบ่งได้เป็นสองพวก ซึ่งมีธรรมชาติลักษณาการส่งเสริมการสร้างขยายและหดตัวของจักรวาล ทำให้เกิดสมดุลนั่นเอง ไม่ใช่เป็นประธานฝ่ายความดี และความชั่ว อย่างที่สอนกันมาผิดๆ

Sunday, January 14, 2007

Harddisk 250 GB ตัวใหม่ ฉลอง Su(t) 180 Su(n) และ 45 กับ Ne(n)

จริงๆ แล้วไม่ค่อยแน่ใจว่าเป็นปรากฏการ์ณที่เกิดขึ้นเนื่องจาก อาทิตย์ จร เล็ง อาทิตย์กำเนิด และ 45 = เนปจูน ในเช้าวันที่ 13/01/07 หรือว่าเป็นเพราะ เสาร์จร 60 องศากับ มฤตยู และ อาทิตย์จริง ฉาก กับ มฤตยู ในวันที่ 14/01/07

หากรวมกันเป็นสูตรได้ เพราะว่า น่าจะยังอยู่ในระยะวังกะ 1 องศา นิดๆ

Su(t) = Su = Ne = Ur, Sa(t) 60 Ur หากจะแปลให้ตรงกับความเป็นจริงก็ดูไม่ขัดอะไร

"วันที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์อิเล็คทรอนิก(มฤตยู)สำหรับการบันทึก(เนปจูน) ขนาดใหญ่(เสาร์)"

แต่ก็ยังมิวายมีปัญหาตอนทำ Partition และ Format เพราะ Window XP ดูเหมือนจะไม่สนับสนุนกับ format เป็น FAT32(ระบบการจัดเก็บข้อมูลแบบหนึ่ง) พยายามอยู่นานมาก สุดท้ายอาจารย์ Google แจ้งว่า ศูนย์คอมพิวเตอร์ ของมหาลัยชั้นนำของรัฐแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ทางใต้มีหลายวิทยาเขต และชื่อย่อไม่เหมือนมหาลัยทั่วไป (ม.อ.) มีบทความว่าด้วยสิ่งที่หาอยู่พอดี ได้โปรแกรมสุดยอดมา FAT32FORMAT.EXE ใช้เวลาจัดการแค่อึดใจเดียว (รู้งี้หาข้อมูลในเนตนานละ ไม่ต้องนั่งรอเป็นชั่วโมงลุ้นแล้วแห้วอยู่นานสองนาน)

อ้างอิง :