เสี่ยยักษ์ นี้คนยุดยา ต่อไปจะมีเสี่ยแดง ไหมหน่อ

ด้วยไอเดียบรรเจิดชั่วครู ผมจึงปั้นเรื่องสนุกๆ เพื่อแซวพี่แดงในกลุ่มเทรด AFET ไปว่าอนาคต แกอาจจะเป็นเสี่ยใหญ่ เพราะว่าแกเป็นคนอยุธยา เหมือนกับเสี่ยยักษ์ ฮาๆๆ ไม่รู้เกี่ยวกันไหม รู้แต่ว่ากลุ่มเราเฮงครับพี่น้อง

“เสี่ยแดงกล่าวต่อไปว่า ในสมัยที่เริ่มต้นแรก...นั้นผมเกเรมาก เสียมาตลอด แต่มีจุดหักเห หลังจากเข้าร่วมกับกลุ่มเทรด AFET ลุงโฉลก ทำให้รู้ว่า แท้จริงแล้วระบบที่ตนเองใช้เทรดอยู่นั้น คือ แหกกฏ นั้นเอง

โชคดีที่แม้ว่าแหกกฏไป ก็ยังพอได้กำไรอยู่บ้าง จนกระทั้งรู้ซึ้งถึงพลังของระบบ.... เสี่ยแดงกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงชื่นชม กลยุทธ์เคล็ดลับของตน ตอนนั้นผมลืม attach สูตรครับ เลยไม่เห็นเว่าเมื่อไร เขียว เมื่อไรแดง ประกอบกับชะตากรรมรังแกคอมพิวเตอร์เสียด้วย เพราะไวรัสกิน ต้องลงโปรแกรมใหม่หมด แต่ก็ดันลืมขอสูตรมาอีก สุดท้ายค้นเจอสูตรลับไม้ตายประจำทีม ซึ่งขออนุญาติไม่เปิดเผยในที่นี้นะครับ เพราะเกรงว่าจะด้วยหลักการซับซ้อนนี้ คนทั่วไปอาจจะไม่เข้าใจ

ปัจจุบัน เสี่ยแดงเป็นเจ้าของโรงงานผลิดยางรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ มีมูลค่ามากกว่า 100 ล้านบาท เสี่ยแดงกล่าวว่าจุดที่ทำให้เปิดโรงงานผลิตยางรถยนต์นี้ ก็เพราะว่าตอนนั้นเปิด long ยาง AFET ไว้ แล้วคอมเจ้งครับ ปิดสถานะไม่ทัน เลยต้องรับซื้อยางไว้ทั้่งหมด แจกให้คนในกลุ่ม AFET แล้วก็ยังเหลือ เลยหันมาผลิดยางรถยนต์แทน...และยังติดตลกว่า นี้ดีนะที่ข้าวไม่มีการส่งมอบจริง ไม่งั้นทำข้าวถุงขายด้วย …..”

อีก 5 ปีเราจะเห็นบทความนี้ในหน้าธุรกิจ ของหนังสือพิมพ์ชั้นนำครับ พี่ๆๆ

บรรยากาศในห้องเรียน ดารา-โหราศาสตร์

วันอาทิตย์ 9 พ.ย. 51 ที่ผ่านมา เป็นวันแรกของวิชา “ดารา-โหราศาสตร์” ซึ่งสอนโดย อ.อารี สวัสดี ท่านก็ยังบรรยายด้วยท่าทีที่น่ารัก แต่ดุดัน และมันส์มาก เหมือนเดิม

ผมเข้าเรียนวิชานี้ปีนี้ก็น่าจะเป็นปีที่ 5 แล้ว ก็ยังอดตื่นตาตื่นใจกับของเล่น และตำรับตำราของอาจารย์ไม่ได้เช่นเคย

จำได้ว่าครั้งแรกที่ได้เรียนดาราศาสตร์จริงๆกับอาจารย์อารี คือ ทัวร์ดูดาว “ปรากฏการณ์ดาวเรียงตัวกัน ที่ปราสาทพนมรุ้ง” ของกรมศิลปากร อ.อารี ท่านสนิทกับฝั่งกรมศิลป์ และเจ้าหน้าที่ที่ดูแลอุทยาน จึงทำให้พวกเรากลุ่มนักเรียนโหรได้แจมไปกับเขาด้วย คณะกลุ่มโหรเราก็มีเยอะมากเลย พี่หน่อย (อาจารย์ อารีรัตน์) พี่ลี (อาจารย์ ลี) ผม และแฟน จบ

หัวหน้าทัวร์เป็นเพื่อนและรุ่นน้องโหราศาสตร์ของอาจารย์อารี เราออกจากกรุงเทพ 3 ทุ่ม ถึงที่อุทยาน ตี 3 ไม่ได้นอนทั้งคืน เพราะระหว่างทางก็คุยกันตลอด ทั้งเรื่องโหราศาสตร์ และดาราศาสตร์ เมื่อถึงที่พักแล้วยังถูก ท่านอาจารย์ที่เคารพรัก บังคับให้ติดดาวบนแผนที่ฟ้า เพื่อดูดาวกันต่อ พร้อมทัวร์ปราสาท ตอนกลางคืนต่อเลย เช้ามาก็เรียนดาราศาสตร์ต่อ ง่วงก็ง่วง อยากเรียนก็อยากเรียน เอาวะเรียนทั้งง่วงๆ ฮา สรุปว่าทัวร์นี้เราไม่ได้นอนสักชั่วโมงเลย เนื่องจากในคืนต่อมาพวกเราก็รอดูดาวทั้งคืนอีก ดูครบทั้ง 7 ดวง ใครไม่รอดู แต่เรารอ

อยากบอกว่าพี่ลี (อาจารย์ลี)เก่งมาก สามารถไล่ชี้ชื่อดาวได้ โดยแทบไม่ต้องใช้แผนที่ดาวเลย พี่ลีบอกว่า แกดูดาวทุกวัน และทำการบ้าน อาจารย์อารี ทุกครั้ง และอย่างเยอะ ผมเห็นการบ้านที่พี่ลี ส่งอาจารย์อารี แล้ว พูดได้คำเดียวว่าสุดยอด คนอื่นทำมา 1 แกทำมา 10

กลับมาที่บรรยากาศของครั้งนี้  นั่งดูแล้วคนใหม่สัก 95% คนเก่าๆ สัก 4-5 คนได้มั้ง ส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียนโหราศาสตร์ทั้งนั้น วันนี้อาจารย์ติดงานตอนเย็นเลยต้องเลิกเร็วหน่อย แค่ 5 โมงเย็นก็เลิกแล้ว ตามสถิติแล้วแกต้องเลิก 1-2 ทุ่ม นี้ถ้านักเรียนไม่กลับก่อน แกก็สอนไปได้เรื่อยๆนะครับ เชื่อผมเถอะ เพราะผมนั่งคุยกับอาจารย์มาสว่างคาตา เวลาที่ไปทัวร์ดูดาวมาหลายครั้งแล้ว

ครั้งนี้แกบอกว่าจะอนุญาตให้กินข้าวได้ตอนบ่าย 2 (ค่าหลักสูตร รวมค่าอาหารด้วยครับ ไม่มีหลักสูตรโหราศาสตร์ที่ใดในโลกเป็นเช่นนี้อีกแล้ว) ปัญหาคือใน Pocket Pc ของผม ดันบอกว่า พุธ (Me) จร จะทำมุมกับศุกร์ (Ve) กำเนิดของผม ตอนบ่าย 3 โมง 20 นาที จึงบอก พี่ลี (อาจารย์ลี) และ หนุ่ย (อาจารย์พลังวัชร์) (จากรูป คือ 2 คนที่นั่งข้างประตู) เชื่อผมสิพี่ บ่ายสองไม่ได้กินหรอก นู้นต้องบ่าย 3:20 พร้อมกับโชร์หลักฐาน

พวกเราก็หัวเราะ เฮฮากันไป บ่ายสองอาหารเสร็จแล้ว แต่อาจารย์ยังไม่จบ และยังไม่มีท่าทีจะเลิกในเวลาอันใกล้เลย จนกระทั้ง 3:10 อาจารย์อารีตะโกนถามว่าข้าวเสร็จแล้วใช่ไหม บอกนักเรียนว่ากินข้าวดีกว่า แต่เดียวก่อน สงสัยยังไม่ได้ฤกษ์ แกก็ยังไม่ปล่อย แต่สอนสรุปเนื้อหาตอนเช้าจน บ่าย 3:20 จริงๆถึงปล่อยออกมา

ผม พี่ลี หนุ่ย หัวเราะพร้อมกันเลย เออนะ ตรงเวลาจริงๆด้วย ฮา