Friday, August 03, 2007

เมื่อหมอดูดันลืมคำทำนายของตัวเอง

ตั้งแต่พงษ์พันธ์มาปลุกความกระหายใคร่รู้ในเรื่องการใช้โหราศาสตร์มาใช้ในการพยากรณ์หุ้น ก็ลองผิดลองถูกทฤษฏีอยู่หลายแบบ ก็ให้ผลลัพท์ที่น่าสนใจทีเดียว ยิ่งลองลงทุนในหุ้นจริงๆแล้ว ความใส่ใจในรายละเอียดต่างกันเยอะเลย จากการเฝ้าดูหุ้น และการวิเคราะห์ทางโหราศาสตร์ ก็พอจะสรุปได้ว่าโหราศาสตร์สามารถนำมาใช้ในการพยากรณ์หุ้นได้จริงๆ ลองดูแล้วเราสามารถใช้เทคนิคทางโหราศาสตร์ได้ทุกประเภทในการวิเคราะห์นี้ โดยไม่แตกต่างจากวิธีการดูดวงชะตาของคนปกติเลย

อาจารย์วิโรจน์ เล่าให้ฟังว่า สมัยก่อน อาจารย์ประยูร เคยเขียนบทความเกี่ยวกับหุ้น จนเริ่มมีคนไม่สบายใจ หาว่าอาจารย์ไปใบ้หุ้น หรือปั่นหุ้นซะอย่างนั้นไป สุดท้ายอาจารย์ประยูร จึงต้องหยุดเขียนไป ผมฟังแล้วคิดทันทีเลยว่า อยากเห็นบทความเรื่องหุ้นของอาจารย์ประยูรจริงๆเลย อยากรู้ว่าท่านทำนายอย่างไร จึงต้องมีคนมาขอให้ท่านหยุด และจะเอามาแกะวิธีการ หรือแนวทางที่แกใช้ด้วย แฮ่ๆ แบบว่าอยากได้วิชา

อ่านตำราโหราศาสตร์เพื่อการลงทุนนี้เห็นชัดว่าข้อมูลของตลาดบ้านเรา กับในเมืองนอกนี้ต่างกันคนละชั้นเลย ฝรั่งมันชอบสถิติ เก็บไว้หมดทุกอย่าง เมื่อจะเอาวิเคราะห์อะไรข้อมูลเพียบ ทดสอบทฤษฏีได้เลยว่า อันไหนใช้ได้ อันไหนใช้ไม่ได้ แต่ไม่เป็นไรบ้านเรามีน้อย เราก็จะสู้ วิเคราะห์เองตามมีตามเกิดนี้แหละ

ลองค้นในคัมภีร์พระเคราะห์สนธิ ของโหราศาสตร์ยูเรเนียน พบว่ามีจุดอิทธผล ตลาดกระทิง และตลาดหมี ด้วยอะ สุดยอด ผมจึงอดสงสัยไม่ได้ว่าวิคเตอร์ หรือท่านปรมอาจารย์ท่านอื่นๆมีแอบเล่นหุ้นด้วยหรือเปล่าเนี้ย ผมทดสอบดูกับตลาดหุ้นไทยในอดีต นี้ก็แป๊ะ ชัดเจน เมื่อไรที่ จุดกระทิงถึงจุดเจ้าชะตาเมื่อไร ตลาดเปลี่ยนมาเป็นขาขึ้นเลย พอจุดหมีเข้าปั๊บ ตกทันทีเลย

และจากการเก็บข้อมูลด้วยการลงสนามจริง ผมพบว่าปัจจัยโดดมีความสำคัญอย่างมากต่อจังหวะการเปลี่ยนแปลงของหุ้นแต่ละตัว และตลาดโดยรวม ให้ความแม่นยำน่าประทับใจกว่าบทวิเคราะห์เชิงเทคนิคชองโบรกเกอร์เสียอีก

สองสามวันที่ผ่านมานี้ ผมนั่งเซ็ง จิตตกสุดฤทธิ เพราะหุ้นตกตามคำทำนายเลย จริงๆแล้ว น่าจะดีใจถึงจะถูก เพราะเราเองไปบอกคนอื่นไปทั่วว่าสิงหาคม - กันยายนนี้ ตลาดหุ้นจะแย่ ระวังจะติดหุ้น บอกแฟนด้วยให้เตือนเราให้ออกจากตลาดก่อนสิงหาคม

แต่......แฟนไม่อยู่....ไปปฏิบัติธรรม (แอบโทษแฟนเลย) และตัวเองดันลืมถือหุ้นอยู่เต็มพอร์ต แม้ว่าพอจะไหวตัวทัน แต่ผลการดำเนินงานการจัดการกองทุนส่วนบุคคล (ของผบ.ทบ.) ก็ลดต่ำลงอย่างหน้าใจหาย อ่า แล้วหัวเราจะแตกไม่นี้

คราวหน้าจะมาเล่าให้ฟังว่า ปัจจัยอะไรที่บอกว่าหุ้นจะตกแล้ว หรือ เห็นจังหวะดาวอะไรที่น่าสนใจจากการเฝ้าตามตลาดหุ้น

No comments: