Sunday, September 27, 2009

หุ้นน่าสนใจที่กรองมาจาก ADX Weekly

ใช้วิธีทาง Technical Analysis กรองกลุ่มอุตสาหกรรม หากลุ่มที่ยังพอมีแนวโน้มราคาสูงขึ้นได้อีก หรือเริ่มๆวิ่ง หรือ ใกล้จะวิ่งแล้ว แล้วเลือกหุ้นที่น่าสนใจออกมา โดยใช้วิธีการเดียวกัน คือ การใช้กราฟราคาระดับ week และใช้ ADX ตรวจสอบกำลัง และ Trend ได้ออกมาดังนี้ครับ

Media : BEC, MAJOR, SE-ED, WORK

Mine : PDI,THL

Prof : BWG, GENCO, PRO

Tourish : CENTEL, DTC, MME

รวมทั้งสิ้น 12 บริษัทพอดีเลย เออแปลก เดี้ยวเราค่อยมาดูดวงหุ้นแต่ละตัวกันอีกครั้งหนึ่ง

Thursday, September 24, 2009

วันนี้พาภรรยาไปวัดสวนสันติธรรมมา

วันนี้พาจิ๋ว (ภรรยา) ไปวัดสวนสันติธรรมมา ส่งการบ้านกับหลวงพ่อไม่ได้ หลวงพ่อไม่เรียก สงสัยจะไม่มีัปัญหา ไม่ก้อปัญหาแก้ยาก อยากไปส่งการบ้านมาก มีคำถามที่ค้างๆใจอยู่ กับไปต่อไม่ได้ โง่อะ

ก้อส่งกับแม่ชีแทน

อันแรก ผมเล่าให้ท่านฟังว่า ระหว่างปีคุณยายเสีย เศร้าใจมาก แต่ตอนมีรู้สึกเศร้า จิตมันก้อระลึกรู้ว่าเศร้าอยู่ ความเศร้าก้อหายไป แล้วก้อเศร้าใหม่ เป็นอยู่เรื่อยๆ

จากนั้น ก้อกลับมานึกที่หลวงพ่อเคยให้การบ้าน บอกให้ช่วยมันคิดหน่อย และไปตามดูว่า “กายอยู่ส่วนกาย จิตอยู่ส่วนจิต”

ปฏิบัติซักระยะหนึ่ง มันก้อรู้สึกว่าฟ้ามันมืดลง แล้วเริ่มรู้สึกว่าร่างกายมันเป็นแค่เนื้อธรรมดาอะ เห็นเหมือนกับร่างกายมันก้อกิน เดิน ยกมือ นอน แยกอยู่ห่างๆ เป็นก้อนเนื้อธรรมดา หรือไม่ใช่ตัวเราอะครับ เป็นอย่างนั้นมาสัปดาห์กว่าๆ

แล้วหลังจากอ่านเมล์เรื่องลูกศิษย์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ก้อรู้สึกเศร้า นึกถึงความเศร้าของตนเอง แล้วก็ร้องไห้ออกมา หลังจากนั้นก้อไม่รู้สึกว่ากายเป็นก้อนเนื้ออีกเลย แต่จิตยังจับตอนแว่บคิด หรือหลงเผลอได้บ่อยขึ้นมาก แม้ช่วงสั้นๆ

แมชีเลยถามว่าผมฝึกในรูปแบบไหม ผมบอกว่าไม่ ผมฝึกดูจิตไปเรื่อยๆในชีวิตประจำวัน ท่านก้อบอกว่าให้ผมหาเวลามาปฏิบัติในรูปแบบบ้าง คือ ดูเป็นเรื่องเป็นราวเลย จิตจะได้มีกำลังมากขึ้น แล้ว จิตมันห้ามไม่ได้ บางที่มันจะสนใจกาย บางทีมันจะสนใจจิต การปฏิบัติในรูปแบบจะทำให้มีกำลังมากขึ้น แล้วก้อการที่เห็นว่ากายกับจิตมันแยกกัน มันก็ไม่อยู่ตลอดนะ เมื่อไรมันมีกำลังมันก้อเห็น แต่บางทีก้อไม่เห็นนะ

ก้อถามต่อว่า คราวก่อนหลวงพ่อบอกว่าผมกดอยู่ แม่ชีก้อตอบว่าตอนนี้ก้อยังมีกดอยู่...อันนี้ผมมองไม่เห็นนะ แล้วผมก้อบอกว่า ผมรู้สึกว่าผมติดซึม แล้วเหมือนโมหะครอบเยอะ ท่านก้อบอกว่า ให้จิตมันซนๆเข้าไว้อะ อย่าให้มันนิ่งๆ นึกถึงตอนที่ยังไม่ภาวนา

ส่วนจิ๋วถามว่า ตอนนี้ทุกข์ทางกายมันเยอะ จิตมันก้อวิ่งลงไปคลุกกับเวทนา ดูจิตไม่ได้เลย ทำไงดี

ท่านก้อตอบว่า ก้อให้ดูว่าจิตมันลงไปคลุกกับเวทนา พอแล้ว ตอนมันหลุดจากการคลุกก้อให้รู้ทันว่าหลุดออกมา ดูเท่านั้นพอ

จิ๋วเลยดีใจว่า โอเค ดูต่อเป็นแล้ว ไม่งั้นก้อเครียดต่อ เพราะไม่รู้ว่าทำไงดี ระหว่างนั้น แม่ชีก้อหันมาบอกผมว่า อย่าให้ซึมนะ

ผมจึงได้โอกาสถามต่อว่า บางทีตอนฟัง cd หลวงพ่อระหว่างขับรถ มักจะจิตรวม วนกลับมาดูกาย ดูใจตัวเองตลอด จนฟ้ามืด ไม่ได้ดูทาง ทำไงดี ท่านก้อบอกว่า ไม่ได้ หลายคนรถชน ก็เพราะอย่างนี้หลาายคนแล้ว อย่าดูจิต ระหว่างขับรถนะ ให้แฟนดูไป ตัวเองมีสมาธิขับรถไป

จากนั้น ก้อมีเสียงบอก หมดเวลาแล้ว จึงถือโอกาสกราบลา กลับมาทำงานต่อ

ยังจำได้ว่าสมัยก่อน จิ๋วเคยบอกว่า ไม่เห็นเลย ที่เผลอ ที่หลงคิด ที่หลงเพลิน ถามว่าเป็นไง สอนหน่อย

ไม่รู้จะสอนไงดี รู้แต่ว่า เดี้ยวพอจับได้ว่า หลงปุ๊บ ตามระลึก รู้สึกตัวขึ้นมาได้นะ ก้อจะจับทางได้ ปฏิบัติไปเรื่อยๆ มันก้อจะสั้นเข้าเรื่อยๆ แรกบางวันก้อระลึกได้ 1 ครั้ง บางที่ก้อหลงตลอดทั้งวันเลย พอบ่อยๆเข้า มันก้อพอแป๊บหนึ่ง นั่งๆฟังอะไรน่าเบื่อ ก็ระลึกได้ว่าอ้าว หลงแว๊บไปละ

ส่วนเรื่องเห็นกายแยกออกมานี้ มันอยากเห็นเดี้ยวมันก้อเห็นเองอะ ผมเห็นครั้งแรกตอนวิ่งบนลู่วิ่งออกกำลังกาย อยู่ดีๆมันก้ออยากดูจิต พอเห็นจิตมันกำลังจะท้อ ก้อระลึกได้ ก้อมองเห็นที่ปวดไหล่ ปวดหลังมันอยู่ห่างๆ กับเห็นจิตมันอยากจะเข้าไปเกาะ ไหวๆ เลยเห็นว่าอ้อ ความปวดมันก้อเกิดของมัน จิตไม่ไปเกาะมันก้อไม่ ทรมาน (ไม่ทุกข์มากขึ้น) ก้อวิ่งไป เห็นไปอย่างนั้นแหละครับ อยู่ ชั่วโมงหนึ่ง

ตอนนั้นได้โอกาสส่งการบ้านกับพระอ.ประโมทย์ หลวงพ่อเลยบอกว่าดีขึ้นนะ และให้การบ้านผมคือ ให้ไปดูว่า กายมันอยู่ส่วนกาย จิตมันอยู่ส่วนจิต แยกออกจากกัน แต่ยังกดๆไว้อยู่ ท่านบอกว่า ที่หลังจากนั้นผมไม่เห็นอีกเลย เพราะว่าเราอยากจะเห็น เลยเพ่งเอาไว้ พอมันอยาก มันก้อไม่เห็น เพราะเราไม่ทันเห็น ความอยากของเรา
ตอนนั้นก้อ ผงกหัว ครับๆไปแหละ

ตอนหลังมาอ่านที่ อ.สุรวัฒน์ เขียนแนะนำในกระทู้ของเวป วิมุตติ http://www.wimutti.net/ อะครับ

แกสอนเรื่องอะไรแล้วจำไม่ได้ แต่หลักมันคือ ก็ตามดูจิตไปเรื่อย ตอนที่เราอยากดู ก้อให้ทันจิตที่อยากดู

ดังนั้น ถ้ากรณีผม คือ ผมอยากดู อยากเห็นสภาวะนั้นอีก จริงๆ ก็มีกิเลส เกิดขึ้นมาให้ดูอยู่ตรงหน้าแล้ว แต่ไม่เห็นเอง คือ โลภะ ความอยากเห็นสภาวะ นั้นเอง

บ่อยครั้งที่ที่ผมไม่มีโอกาสได้ถาม หรือส่งการบ้านกับหลวงพ่อหรอกคับ แต่มักจะได้คำตอบจาก การฟัง cd ท่านบ้าง หรือ อาจารย์ท่านอื่นๆรอบข้างบ้าง

ยกตัวอย่างอย่างตอนที่ผมหงุดหงิดที่ อยากเศร้า แล้วจิตมันระลึกได้ เลยไม่เศร้า มันก้อตัดอารมณ์ไปอย่างนั้น ก้อไปต่อไม่ได้ รู้สึกตันๆ ผมไปเล่าให้ พระอาจารย์ฉลอง ที่วัดบวร ที่คณะที่ผมบวช ท่านก้อหัวเราะ แล้วก้อบอกว่า ทิดเครียดเกินไป จะเอาเป็นเอาตายเลยหรอ

ท่านก้อสอนต่อว่า เรานะ ไม่อยู่กับปัจจุบัน ตอนที่หลุดออกมาจากความเศร้าแล้วนะ มันหลงไปอยู่กับความรู้สึกหงุดหงิด ไปติดกับกิเลส ทำไมไม่ดูต่อละว่าหงุดหงิด กิเลสมันเกิดขึ้นแล้วนะ อย่างนี้ อ.ปราโมทย์ ท่านบอกว่าหลงไปแล้วนะ ไม่อยู่กับสภาวะปัจจุบัน

ผมก้อเลยหลุดออกมาจากตรงนั้นได้หน่อยนึง

หรืออย่างวันหนึ่ง พาแม่ไปวัดสวนสันติธรรม ไม่ได้ส่งการบ้านนะ แต่มีคนอื่นส่ง เขามีอาการเดียวกันเลย ถามในเรื่องที่เราติดอยู่เหมือนกันเลย ผมจำไม่ได้แล้วว่าอาการเป็นไง แต่หลวงพ่อชี้คนนั้นบอกว่า โยมไปดูนะ อัตตา โยมแรง ตัวกูอยู่เต็มที่เลย โยมไปดูตัวนี้นะ ไปดูมานะอัตตา

เหมือนฟ้า่ผ่าใส่กระหม่อมเลยพี่...มันแว่บกลับมาดูตัวเอง เออวะ อัตตา ตูมันใหญ่จริงๆด้วย คิดว่าตัวเองเก่ง ภูมิใจ ครายว่าอะไรเถียง ก้อฉันเก่ง อยากสอนคนนั้นคนนี้ อะไรงี้อะ

พอเห็นปุ๊บ ตัวอัตตามันก้อเล็กลงทันที แต่จริงๆ มันก้อจะโผล่มาเรื่อยๆแหละนะ ถ้ารู้ทันมันก้อรอดไป มันก้อหายแว๊บไป เพราะเรามารู้แล้ว

ผมฟัง CD ไปเรื่อยๆ ก้อได้คำตอบไปเรื่อยๆนะครับ ที่เราติดอยู่ก้อต้องมีคนอื่นติดอยู่เหมือนกัน เดี้ยวท่านก้อตอบมาเอง เพียงแต่ว่าเราก้อตามคิดว่า ปัญหาเราตรงกับคนที่ท่านตอบหรือเปล่า

ถ้าใครอยู่ไกล สามารถไปโหลดการบรรยายธรรมของ อ.ประโมทย์ ได้ที่เวปวิมุตติ http://www.wimutti.net/pramote/ ตามลิงค์นี้นะครับ

อ้อ... เล่าให้ฟังนะ เวลาฟัง CD ไม่ต้องคิดหรอกนะ ว่าคนนั้นเห็นอย่างงั้น อย่างนี้ทำไมเราไม่เห็น แต่ละคนเห็นไม่เหมือนกัน เห็นไม่ตรงวาระกัน บางคนเกิดก่อน บางคนเกิดหลัง ผมตัดไปเลย ไม่เคยนั่งคิดว่าทำไมเราไม่เป็น เราก้อดูเท่าที่เราเห็นไปเรื่อยๆ ไม่ได้หวังเหมือนคนอื่นๆ แต่ก้อดีใจที่คนอื่นเขาได้ดีอะ แต่ก้อไม่ได้ท้อแท้อะไร ดูกาย ดูใจ ของเราไปเรื่อยๆ

ปล. ส่งการบ้าน คืออะไร

ส่งการบ้าน คือ การไปเล่าให้อาจารย์ฟังว่าเราปฏิบัติได้ผลอย่างไร และบอกสภาวะธรรมของตัวเราว่าเป็นอย่างไงบ้างอะ ถ้าท่านเห็นว่า เราตอบได้ถูกต้องหรือไม่ เรายังขาดตรงไหน หรือว่าติดอะไร ท่านก้อจะบอกมานะครับ

Friday, September 18, 2009

ได้หนังสือโหราศาสตร์(เก่า) มาใหม่

 
P9155099 P9155097

วันก่อนไปเดินเล่นระหว่างรอภรรยา ที่ร้านหนังสือเก่าที่แฟชั่นไอซ์แลนด์ รามอินทรา (ไกลมาก) ก็เดินดูเรื่อยเปื่อย ลองถามเขาว่ามีตำราโหราศาสตร์ของฝรั่งบ้างไหม เจ้าของร้านบอกว่าไม่มีครับ ตอนนี้ที่มี มีแต่ปฏิทิน เลยเอามาดู โอ้ของแท้มันหน้าตาอย่างนี้ นี้เอง สวยงาม แต่เอ้เราเอามาทำอะไรดี

ระหว่างคิดหาเหตุผลนั้นก็โทรถามหนุ่ย(พลังวัชร์)เรื่องตำราโหราศาสตร์ไทย อีกเล่มหนึ่งว่าน่าสนใจไหม บอกคุณเล่นยูเรเนียนไปแล้ว ก้อไปทางนั้นเถอะ ถ้าอยากอ่านลองเอาที่ผมไปอ่านก่อนก็ได้ อื่ม...ลืมไปว่า ขานี้ เขานักสะสม ค้นหาตำราไทยมานับไม่ถ้วน เลยบอกว่า โอเคผมไม่หาตำราโหราศาสตร์ไทยแล้ว ถ้าผมอยากอ่าน ผมไปเอาที่คุณเลยแล้วกัน ฮา

เลยได้โอกาศถามต่อว่า ปฏิทินดาวทิพย์ และปฏิทินดาราศาสตร์ 21st ของ Neil Michelsen มีขายอยู่อยากได้ไหม ระหว่างนั้นท่าน หนุ่ยก้ออิดออดไปมา แล้วสรุปว่าเออ คุณเอามาก่อนแล้วกัน ฮา.. เราก็เลยได้เหตุผลในการซื้อตำรามาละ ดีจัง

P9155094ระหว่างรอจ่ายตัง ถามเจ้าของร้านเรื่อยเปื่อย มีตำราโหราศาสตร์บ้างไหม เข้ามาบ่อยไหม ฯลฯ เขาหาสักพัก บอกว่าส่วนใหญ่ขายไปหมดแล้ว เหลือแต่เล่มนี้ที่สภาพดีๆ เอาไหมครับ

อ้าวนี้ตำราโฮ๋ราสาด อ.อรุญ ลำเพ็ญ นี้นา ของแท้ด้วย เรียบง่าย แต่อยากได้อะ เคยเห็นแต่ชุดที่ copy ออกมาขาย เล่มหลายสตางค์เหมือนกัน เลยถามว่า เท่าไรครับพี่ "เออ 70 บาทครับ เอ้ ไม่มีแบงค์ย่อยหรอครับ ผมลดให้ 60 บาทก็ได้ครับ" คือ ระหว่างนั้นผมกำลังรีบจ่ายเงินอยู่ครับ กลัวเขาขึ้นราคา ดันจะลดราคาให้อีก เลยให้เหรียญ 5 บาทไปเป็น 65 บาท สำหรับโฮ๋ราสาด ของแท้พิมพ์ ปี 2524

คำถามต่อไปคือ จะได้อ่านหรือเปล่า อันนี้ไม่รู้เหมือนกัน แต่เราชอบ เราศรัทธาท่านอาจารย์ ขอเก็บมาขึ้นหิ้งก่อน อย่างอื่นว่ากันที่หลัง ฮา