Sunday, August 12, 2007

ทำไมหุ้นจึงตกในเดือนสิงหาคม - กันยายน 2550

จากครั้งก่อนที่เกริ่นเรื่องคำทำนายเรื่องตลาดหุ้นว่าจะตกในเดือนสิงหาคม และกันยายน คราวนี้จึงมาเริ่มสาธยายให้ฟังเพิ่ม

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า วิธีการที่ใช้พิจารณา หลักๆก็นำมาจากบทความของฝรั่งที่ใช้ในการพยากรณ์หุ้น รวมถึงวิธีการจัดพอร์ตกองทุนโดยใช้การพยากรณ์ทางโหราศาสตร์ ที่ขึ้นชื่อ และจำได้แม่น คือ Bill Meridian

หลักการง่ายๆ คือ คำนวนดวงชะตาหุ้นนั้น ด้วยวันเวลาที่มีการซื้อขายในตลาดครั้งแรก (First Day Trade) จากนั้นก็พิจารณาคล้ายคลึงกับดวงชะตาของบุคคล

ผมก็นำวันเวลาที่ตลาดเปิดครั้งแรกอย่างเป็นทางการคือ วันที่ 30 เมษายน 2518 เวลาเปิดทำการคือ 10:30 น. มาเป็นพื้นดวง (ผมลองเทียบกับเหตุการณ์สำคัญหลายอย่างของตลาดหลักทรัพย์ ยังพบว่าเวลาที่ใช้น่าจะมีการคลาดเคลื่อนอยู่เล็กน้อย แต่ผมยังไม่ค่อยจะมั่นใจนัก คงต้องเก็บข้อมูลไปอีกสักระยะหนึ่ง

โดยหลักการพยากรณ์ดวงชะตานั้นมีหลายวิธี แต่วิธีที่ใช้กันทั่วไป และให้ผลน่าประทับใจ คือ การพิจารณาปัจจัยจร

จากปฏิทินราฟาเอล ในช่วงต้นสิงหา จะพบว่ามีเหตุการณ์ดาวอังคาร (Mar) ทำมุม 90 องศากับ ดาวเสาร์ (Saturn)

จากคัมภีร์พระเคราะห์สนธิ => อังคาร+เสาร์ = "งานที่ทำเป็นระยะ ๆ (หยุดบ้างทำบ้าง) การหยุดชะงักการงาน ความเจ็บป่วย การป่วยหนัก หรือเรื่องร้ายแรง การหยุดชะงัก การพลัดพรากโดยถูกบังคับ การกระทำที่ก่อให้เกิดการพลัดพราก การถึงแก่กรรม" หรือแปลง่ายๆว่า ยุติกิจกรรม หรือ ยุติบทบาท

ปรากฏการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่ส่งผลในวงกว้าง ที่ใดก็ได้ และมันจะไม่มีผลอะไรเลยถ้าไม่มาทำมุมกับ จุดเจ้าชะตาเมอริเดียน (Meridian) ของ SET index นั้นหมายความว่า ตลาดหลักทรัพย์บ้านเรา ได้รับผลกระทบบางอย่างที่ทำให้เกิดการหยุดชะงัก




เท่าที่ผมเก็บข้อมูลมาจะพบว่าถ้าหากกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น หุ้นก็จะตกลงมา แต่ถ้าหากหุ้นเป็นช่วงขาลง ก็จะเป็นเปลี่ยนเป็นขาขึ้นแทน (ยุติการลง) ประกอบกับดวงชะตาของหุ้นๆต่างที่ผมสนใจให้ผลไปในทิศทางเดียวกัน คือ ราคามีแนวโน้มลดลง ผมจึงกล้าที่จะประกาศต่อเพื่อนๆว่า ตลาดหุ้นจะเริ่มตกต่ำในช่วงเดือนสิงหาคม และจะต่อเนื่องไปอีก 1 เดือนเพราะว่า เสาร์ (Saturn) ยังคงอยู่ในระยะวังกะ และจะเข้าทำมุมกับ ลัคนา (As) และราหู (Moon Node)ต่อไปอีกสักระยะ


คราวนี้คำถามคือ แล้วเมื่อไรมันจะดีละ คำตอบง่ายๆ ก็คือ .....อ่า...เวลาหมด ง่วงแล้วแถมไข้ขึ้นด้วย คงต้องพักผ่อนแล้ว อ่านต่อคราวหน้าแล้วกันนะครับ

Friday, August 03, 2007

เมื่อหมอดูดันลืมคำทำนายของตัวเอง

ตั้งแต่พงษ์พันธ์มาปลุกความกระหายใคร่รู้ในเรื่องการใช้โหราศาสตร์มาใช้ในการพยากรณ์หุ้น ก็ลองผิดลองถูกทฤษฏีอยู่หลายแบบ ก็ให้ผลลัพท์ที่น่าสนใจทีเดียว ยิ่งลองลงทุนในหุ้นจริงๆแล้ว ความใส่ใจในรายละเอียดต่างกันเยอะเลย จากการเฝ้าดูหุ้น และการวิเคราะห์ทางโหราศาสตร์ ก็พอจะสรุปได้ว่าโหราศาสตร์สามารถนำมาใช้ในการพยากรณ์หุ้นได้จริงๆ ลองดูแล้วเราสามารถใช้เทคนิคทางโหราศาสตร์ได้ทุกประเภทในการวิเคราะห์นี้ โดยไม่แตกต่างจากวิธีการดูดวงชะตาของคนปกติเลย

อาจารย์วิโรจน์ เล่าให้ฟังว่า สมัยก่อน อาจารย์ประยูร เคยเขียนบทความเกี่ยวกับหุ้น จนเริ่มมีคนไม่สบายใจ หาว่าอาจารย์ไปใบ้หุ้น หรือปั่นหุ้นซะอย่างนั้นไป สุดท้ายอาจารย์ประยูร จึงต้องหยุดเขียนไป ผมฟังแล้วคิดทันทีเลยว่า อยากเห็นบทความเรื่องหุ้นของอาจารย์ประยูรจริงๆเลย อยากรู้ว่าท่านทำนายอย่างไร จึงต้องมีคนมาขอให้ท่านหยุด และจะเอามาแกะวิธีการ หรือแนวทางที่แกใช้ด้วย แฮ่ๆ แบบว่าอยากได้วิชา

อ่านตำราโหราศาสตร์เพื่อการลงทุนนี้เห็นชัดว่าข้อมูลของตลาดบ้านเรา กับในเมืองนอกนี้ต่างกันคนละชั้นเลย ฝรั่งมันชอบสถิติ เก็บไว้หมดทุกอย่าง เมื่อจะเอาวิเคราะห์อะไรข้อมูลเพียบ ทดสอบทฤษฏีได้เลยว่า อันไหนใช้ได้ อันไหนใช้ไม่ได้ แต่ไม่เป็นไรบ้านเรามีน้อย เราก็จะสู้ วิเคราะห์เองตามมีตามเกิดนี้แหละ

ลองค้นในคัมภีร์พระเคราะห์สนธิ ของโหราศาสตร์ยูเรเนียน พบว่ามีจุดอิทธผล ตลาดกระทิง และตลาดหมี ด้วยอะ สุดยอด ผมจึงอดสงสัยไม่ได้ว่าวิคเตอร์ หรือท่านปรมอาจารย์ท่านอื่นๆมีแอบเล่นหุ้นด้วยหรือเปล่าเนี้ย ผมทดสอบดูกับตลาดหุ้นไทยในอดีต นี้ก็แป๊ะ ชัดเจน เมื่อไรที่ จุดกระทิงถึงจุดเจ้าชะตาเมื่อไร ตลาดเปลี่ยนมาเป็นขาขึ้นเลย พอจุดหมีเข้าปั๊บ ตกทันทีเลย

และจากการเก็บข้อมูลด้วยการลงสนามจริง ผมพบว่าปัจจัยโดดมีความสำคัญอย่างมากต่อจังหวะการเปลี่ยนแปลงของหุ้นแต่ละตัว และตลาดโดยรวม ให้ความแม่นยำน่าประทับใจกว่าบทวิเคราะห์เชิงเทคนิคชองโบรกเกอร์เสียอีก

สองสามวันที่ผ่านมานี้ ผมนั่งเซ็ง จิตตกสุดฤทธิ เพราะหุ้นตกตามคำทำนายเลย จริงๆแล้ว น่าจะดีใจถึงจะถูก เพราะเราเองไปบอกคนอื่นไปทั่วว่าสิงหาคม - กันยายนนี้ ตลาดหุ้นจะแย่ ระวังจะติดหุ้น บอกแฟนด้วยให้เตือนเราให้ออกจากตลาดก่อนสิงหาคม

แต่......แฟนไม่อยู่....ไปปฏิบัติธรรม (แอบโทษแฟนเลย) และตัวเองดันลืมถือหุ้นอยู่เต็มพอร์ต แม้ว่าพอจะไหวตัวทัน แต่ผลการดำเนินงานการจัดการกองทุนส่วนบุคคล (ของผบ.ทบ.) ก็ลดต่ำลงอย่างหน้าใจหาย อ่า แล้วหัวเราจะแตกไม่นี้

คราวหน้าจะมาเล่าให้ฟังว่า ปัจจัยอะไรที่บอกว่าหุ้นจะตกแล้ว หรือ เห็นจังหวะดาวอะไรที่น่าสนใจจากการเฝ้าตามตลาดหุ้น