Tuesday, January 16, 2007

ปรัชญาของดาว จาก www.horathai.com ตอน 2

อ.วรกุล ท่านโพสในเวปบอร์ดของ www.horathai.com น่าสนใจมาก แม้ว่าจะเป็นกระทู้ "คุยกันสบายๆ..........ตามประสาโหราศาสตร์ไทย ( 21)" แต่อ่านแล้วอย่างไงก็สามารถใช้ในโหราศาสตร์สากลได้อย่างแน่นอน

+++++++++++++++++++++++++

อ.วรกุล :

ธาตุที่สำคัญอย่างต่อมา คือ อาทิตย์ ซึ่งมีธรรมชาติรวมศูนย์ลงเป็นหนึ่งเดียว อาทิตย์นั้นต่างจากเสาร์ แต่ลักษณะคล้ายกันคือ รวบรวมเอาทั้งสิ่งที่แตกต่างหรือ เหมือนกันก็ตามรวมเข้าหาเป็นหนึ่งเดียวเสมอ ดังนั้น อาทิตย์จึงมีพลังงานสูงมาก และกลายเป็นสิ่งที่เป็นเอกอันเดียว เราจึงมักทำนายอาทิตย์ว่าเป็นเอก เป็นใหญ่ เป็นเลิศ เป็นหัวหน้า เป็นอำนาจ และเป็นศูนย์กลางของชนหมู่มากเช่น พระราชา นอกจากนั้น อาทิตย์ยังเป็นที่มาของ “ชีวิต” และยังหล่อเลี้ยงชีวิตด้วย นักโหราศาสตร์และไสยศาสตร์ จึงถือว่าอาทิตย์คือผู้ให้ชีวิต บางศาสนาที่สร้างอวัยวะเพศชาย หมายถึง อาทิตย์ เป็นรูปเคารพ จึงหมายถึง ผู้ที่สร้างชีวิต หรือ รวบรวมสรรพสิ่งไว้ในชีวิต ไม่ใช่เครื่องหมายทางเพศและกามารมณ์

ธาตุที่เป็นคู่ตรงกันข้ามก็คือ จันทร์ เนื่องจากจันทร์ทำสิ่งเดียวให้กลายเป็นหลายอย่าง ยิ่งธาตุจันทร์อยู่นานเท่าไร จำนวนก็จะเพิ่มปริมาณขึ้น เราจึงมักทำนายจันทร์ว่าเป็นประชาชน หรือ คนหมู่มาก ปลาฝูงใหญ่ๆ หรือสิ่งที่เป็นปริมาณมาก เช่น สายน้ำ แม่น้ำลำคลอง ที่น้ำแต่ละหยดไหลมารวมกัน หากจันทร์เป็นทรัพย์สมบัติก็จะทวีคูณขึ้นอย่างมีปริมาณและคุณภาพ จันทร์ จึงมีลักษณะขยายตัวกว้างออกไป เหมือนอารมณ์และจิตใจที่ไม่มีขอบเขตลิมิต การที่จันทร์เพิ่มจำนวนสรรพสิ่งได้นี่เอง นักปรัชญาและศาสนาโบราณจึงถือจันทร์เป็น “มารดา” และอวัยวะเพศสตรี หรือ สตรีเอง ในความหมายว่าเป็นผู้แพร่พันธ์ ความหมายนี่ยังติดมาแรงในดวงโลกด้วย

อยากให้สังเกตตรงนี้ว่า ลักษณาการตามธรรมชาติการหดตัวรวมศูนย์ ของ อาทิตย์ กับเสาร์ และการขยายตัวออกของ จันทร์ กับ พฤหัส นั้นเป็นลักษณะคล้ายกัน เหมือนกับที่มันทำงานเป็นคู่ธาตุ ในมหาทักษา แต่นี่ยังอยู่ในกรอบของจักรวาลใหญ่อยู่

ธาตุอีกธาตุหนึ่งที่จะกล่าวถึง คือ อังคาร ซึ่งมีธรรมชาติดูดซับเอาพลังงานเอาไว้แล้วปลดปล่อยออกไป เพราะคุณสมบัติข้อนี้จึงทำให้อังคารเป็นธาตุที่เป็น “ตัวทำงาน” ที่สำคัญ ทั้งในดวงเดิมและดวงจร โดยปกติ อังคารนั้นไม่สามารถสร้างพลังเอง แต่ตัวมันจะสะสมพลังงานเอาไว้ทีละเล็กทีละน้อยได้มาจากธรรมชาติรอบตัวและธาตุอื่นๆที่มาสัมพันธ์กับมัน ดังนั้น เมื่อมันมีจังหวะปลดปล่อยออกไปก็จะมีกำลังเหมือนพลังในตัวเอง เรามักพบอังคารในที่ๆยืดหยุ่นได้ เนื่องจากสิ่งเหล่านี้จะมีการสะสมและคายพลังงานออกมาได้เกือบเท่ากัน เช่น เหล็กหรือ โลหะก็จะมีความยืดหดอยู่น้อยๆ นักกีฬาทั้งหลายก็มีพลังงานในกล้ามเนื้อที่สะสมไว้ทั้งจากสารอาหาร และการยืดดึงเหนียวแน่นของเส้นเอ็นที่เกิดจากการฝึกฝนสะสมเอาไว้เป็นเวลานาน อังคารเองจึงไม่ชอบธาตุศุภเคราะห์ที่มักขยายตัว และยังไม่ชอบเสาร์ เพราะความแข็งเกินไปทำให้มันเสียความยืดหยุ่น กลายเป็นเปราะและแตกหักได้

ธาตุพื้นฐานของธรรมชาติที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ ศุกร์ ศุกร์คือ ความสอดคล้องกลมกลืน และความสำเร็จ เมื่อใดธาตุที่ทำงานอยู่มีธาตุศุกร์อยู่ด้วย จะมีความสอดคล้องกลมกลืนกันได้ ดังนั้น ศุกร์จึงเป็นสิ่งจำเป็นในการสร้างสุริยจักรวาลและสรรพสิ่งที่จะรวมกันโดยไม่แตกทำลายไปเสียก่อน เพราะศุกร์นี่เองที่ทำให้เกิดจังหวะของธาตุที่รูปธรรมสอดคล้องตรงกัน ที่ก่อร่างสร้างขึ้นจากนามธรรม เราจึงพบศุกร์ในพวกดนตรี และศิลปะ ความรัก ความงาม และความสมส่วน เนื่องจากการสอดคล้องกลมกลืนนั้น เป็นความสำเร็จขั้นสุดท้าย จากความแปรปรวนรวนเร เราจึงแปลนามธรรมของศุกร์ว่าเป็น “ความสำเร็จ” ซึ่งหยุดนิ่งสงบด้วยฉันทะความพึงพอใจในธรรม ต่างจากนามธรรมอื่น เช่น พฤหัส จันทร์ พุธ อาทิตย์ เป็นต้น เพราะพวกนี้จะพัฒนาไม่หยุด

ธาตุตัวถัดไปคือ พุธ พุธคือ การส่งผ่าน เคลื่อนที่ หากขาดฟังชั่นนี้ ก็จะทำให้ธาตุทั้งหลายตลอดจนพลังงาน ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างเป็นระเบียบ พูธช่วยให้เกิดการลำเลียงของธาตุ การหดตัวและการขยายตัวของธาตุ ล้วนเป็นไปอย่างเป็นระเบียบสัมฤทธิผล ไม่มีอุปสรรค เราจึงเห็นพุธในพวกคลื่น การแพร่หลาย การส่งผ่าน คำพูดและภาษา รวมทั้ง การเรียนรู้ต่างๆ จะเห็นว่า พุธจะคล้ายพฤหัสในแง่การขยายตัวออกไป แต่พูธนั้นเป็นการขยายแพร่เคลื่อนย้ายจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง พุธเพิ่มปริมาณเหมือนจันทร์ ทำให้เป็นคู่มิตรแก่กันได้ดี พุธจูนคลื่นของสรรพสิ่งให้ตรงกันด้วยวิธีเคลื่อนย้ายไปสู่สมดุล มันจึงทำงานคล้ายกับศุกร์ คู่ธาตุของมัน

ธาตุตัวพื้นฐานสุดท้าย คือ ราหู ราหูของจักรวาลใหญ่ไม่ใช่คราส หรือ เงาของโลก แต่เป็นความยึดติดตรึงเหนียวแน่น ทำให้เราเรียกราหูว่า อวิชชา ที่ยึดเอาสิ่งต่างๆมาเป็นอัตตา เพราะราหูมักจะยึดเหนี่ยวสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่เสมอ ขาดไม่ได้ ราหูจึงมีประโยชน์ให้ธาตุยึดติดคุมตัวกันอยู่ได้นาน เช่นธาตุของเสาร์ที่หดตัวรัดแน่น หากมีราหูช่วยยึดติดไว้ก็จะแข็งแรงให้คุณมาก ราหูจึงเป็นภัยศัตรูใหญ่ของพฤหัส จันทร์ และพุธ เพราะการยึดเหนี่ยวของราหูทำให้ธาตุขยายตัวแพร่ไปได้ยาก ราหูทำให้จังหวะของศุกร์สะดุด และอาทิตย์รวมลงไม่ได้สนิท ราหูกับอังคารไปกันได้เพราะอังคารเหนียวแน่นดี ราหูยึดไว้ไม่ให้หลุด แต่ก็ทำให้อังคารเสียความยืดหยุ่นไปได้ด้วย เราจึงมักพบราหูในพวกสิ่งเสพติดและอบายมุข ราหูจึงเป็นศัตรูแรงกับธาตุศุภเคราะห์ทุกอย่าง เพราะมันเหนี่ยวรั้งไม่ให้เกิดการขยายตัวหรือเคลื่อนที่ออกไป

ขอย้ำว่า ธาตุพื้นฐานเหล่านี้ ยังเป็นของธรรมชาติโดยส่วนรวมที่ยังไม่ได้เข้าไปเกี่ยวกับสุริยจักรวาล และโลกเลย เมื่อธาตุเหล่านี้ทำงานอยู่ในจักรวาลและโลก จะถูกคุณสมบัติของระบบทำให้คุณสมบัติทางนามธรรมของมันแปรเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่นได้ ธาตุเหล่านี้เป็นนามธรรมที่ทำงานตามธรรมชาติของมัน จึงอาจจะเสริมกับธาตุอื่น หรือ ขัดแย้งกันก็ได้ไปจนกว่าจะไปสู่สมดุล ปฏิกริยาระหว่างธาตุทั้งหลายนี่แหละเป็นสิ่งที่แปรเปลี่ยนมาเป็นคำทำนายจำนวนมากในโหราศาสตร์

No comments: